สมัยยังเรียนบริหารปริญญาโทอยู่ที่ Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT
ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เคยร่วมโต๊ะอาหารกับสุดยอดนักลงทุนอย่าง Warren Buffett
บทสนทนาบนโต๊ะอาหารนั้นจะสร้างเป็นกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างไร?
┏━━━━━━━━━━━━━┓
🍭DCA ที่ FinVest เจ๋งอย่างไร? กดดูเลย👆
🍭มัดรวมโปรโมชันกองทุนหลายต่อ ที่เดียวจบ อ่านเพิ่มเติม👆
┗━━━━━━━━━━━━━┛
🍽️บทสนทนาบนโต๊ะอาหารระหว่าง Warren Buffett และคุณ ทิม พิธา
คงไม่ต้องบอกว่านักลงทุนฉายา Oracle of Omaha นั้นสุดยอดขนาดไหน แต่ถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ยืนบนจุดสูงสุดของแวดวงการลงทุน Warren Buffett เองกลับดำเนินชีวิตด้วยความเรียบง่าย และที่สำคัญ เขายังเป็นคนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นอย่างยิ่ง
หนึ่งในเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างคือการที่นักลงทุนระดับตำนานอย่าง Warren Buffett ได้เปิดโอกาสให้นักศึกษา MIT เขียนเรียงความในหัวข้อ
“เพราะเหตุผลอะไร คุณถึงอยากเจอผม”
เพื่อจะคัดเลือกนักศึกษาจำนวน 10 คน ร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำด้วย
และคุณ ทิม พิธา เองก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้รับโอกาสนี้ ประกอบกับด้วยความที่ที่นั่งตรงข้ามนั้นว่างอยู่พอดิบพอดี ทำให้นักลงทุนระดับตำนานท่านนี้ได้มุ่งตรงเข้ามาและนั่งลงตรงข้ามระยะประชิดกับคุณทิม พิธา และบทสนทนาก็เริ่มต้นขึ้น
มื้อค่ำแสนวิเศษนั้นเกิดขึ้นในร้านสเต็กธรรมดาแห่งหนึ่งในเมือง Omaha ในระหว่างมื้ออาหาร มหาเศรษฐีผู้ใจบุญอย่าง Warren Buffett ก็ได้ถามคุณทิมว่า
จบมหาลัยแล้ว คุณจะกลับไปทำอะไร?
ด้วยความที่คุณทิมต้องกลับไปทำธุรกิจน้ำมันรำข้าวต่อ จึงอธิบายถึงกระบวนการนำน้ำมันรำข้าวมาเพิ่มมูลค่าให้แก่ปู่ Buffett
Warren Buffett หยุดนิ่งฟัง จากนั้นจึงเริ่มพูดกับคุณทิมว่า
“ดีมาก ต่อจากนี้ไป โอกาสทางธุรกิจจะไม่ได้อยู่ที่ตะวันตก”
“ไม่ใช่แค่เพราะฝั่งอเมริกาหรือยุโรปจะแย่ แต่จีนและอินเดียจะเจริญ” และ “สิ่งที่อยู่ใต้แผ่นดินของบ้านคุณเป็นทองคำทั้งนั้น จงบริหารให้ดี”
บทสนทนานี้เองได้เกิดขึ้นเมื่อราว 11 ปีก่อน
🍽️กลยุทธ์การลงทุนจากโต๊ะอาหาร
เรายอมรับว่าคำพูดของ Warren Buffett เป็นอะไรที่เมื่อได้ฟังแล้วชวนขบคิดทุกครั้ง และครั้งนี้เองก็เช่นกัน
ด้านภาพเศรษฐกิจระยะยาว บนข้อมูลของ OECD พบว่า ปัจจุบันส่วนแบ่งขนาดเศรษฐกิจแบบปรับอำนาจซื้อของสหรัฐฯ ยุโรป จีน และอินเดีย อยู่ที่ 21.3% 18.7% 22.6% และ 8.4% ขณะที่มองไปถึงปี 2050 ส่วนแบ่งดังกล่าวจะกลายเป็น 17.7% 14.7% 25.1% และ 15.3% ตามลำดับ นั่นคือตัวเลขรวมกันจากประเทศผู้นำฝั่งตะวันตกลดลง สูญเสียส่วนแบ่งให้ประเทศผู้นำฝั่งตะวันออกโดยเฉพาะฝั่งเอเชีย
ในภาพระยะสั้น หากอ้างอิงข้อมูลจากทาง IMF ซึ่งคาดการณ์ว่า 70% ของการเติบโตของ GDP ในปี 2023 นี้จะมาจากฝั่งเอเชีย
โดยจุดที่สำคัญคือ 50.3% นั้นจะมาจากจีน 34.9% และอินเดีย 15.4% ในขณะที่งฝั่งตะวันตกกำลังอยู่ในแนวโน้มที่จะหดตัว
มองลึกลงไป เราทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การที่ประชากรมีจำนวนมาก โดยเฉพาะวัยทำงาน จะเป็นการส่งเสริมการบริโภคในประเทศและส่งผลบวกให้เศรษฐกิจมีรันเวย์ให้โตวันโตคืน
ถ้าอยากจะคว้าโอกาสที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ เรามีกองทุนมาแนะนำครับ
กองทุนแนะนำโดย FinVest
Asia
ลงทุนใน Schroder International Selection Fund – Emerging Asia ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนอย่างครอบคลุมในหุ้นของตลาดเอเชีย ให้นักลงทุนได้เติบโตล้อไปกับศักยภาพของภูมิภาคแห่งนี้
China
SCBASHARES(A), SCBASHARES(SSF), Schroder ISF China A
จุดประสงค์หลักคือลงทุนในหุ้นจีน A-Share ที่คาดว่าจะเติบโตได้อย่างโดดเด่นในอนาคต ถ้าจะให้สรุปว่ากองทุน Schroder ISF China A นั้นเก่งอย่างไร สามารถอ่านต่อได้ ที่นี่ 👆
India
TMBINDAE, GS India Equity Base Acc USD
ลงทุนหุ้นอินเดีย โดยมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในหุ้นอินเดียจำนวนไม่มาก เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในอินเดีย โดยมีจุดประสงค์คือชนะดัชนีชี้วัดอย่าง MSCI India IMI, Net returns
┏━━━━━━━━━━━━━┓
💫FinVest แอปลงทุนแบบใหม่ ที่ได้รวบรวมกองทุนทั่วโลก มาให้คุณเลือกกองทุนที่เหมาะสม และตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ได้ง่าย ๆ
⭐️ลงทุนได้ทั้งไทยและเทศ แอปแรกในไทย ให้คุณลงทุนได้จาก 42 บลจ. ชั้นนำ
⭐️ใช้งานง่าย เริ่มต้นแค่มือถือเครื่องเดียว ทำได้ตั้งแต่เปิดบัญชียันซื้อขายง่ายแค่ปลายนิ้ว
⭐️เคียงข้างคุณ มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยอัปเดตสภาพตลาด รวมถึงชี้เป้าการลงทุน
เริ่มลงทุน – แอป FinVest
สอบถาม – Line
ติดตาม – Instagram
อ่านบทความ – Website
#FinVest #YourWingsYourWays
┗━━━━━━━━━━━━━┛
#FinVest #YourWingsYourWays
อ้างอิง
https://www.eea.europa.eu/data-and-maps/figures/contribution-of-major-economies-to
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน