จีนตอนนี้น่าลงทุนหรือยัง
บทความนี้ทีมงาน FinVest มีคำตอบ
🇨🇳จีนตอนนี้น่าลงทุนหรือยัง? โดย FinVest
ตอนนี้ไปไหนก็มีแต่ข่าวจีนเปิดประเทศเต็มไปหมด และคำถามที่เราถูกถามเข้ามาเยอะมากคือตอนนี้จีนน่าลงทุนหรือยัง เราขอสรุปไว้ในบทความนี้ว่ามุมมองของเราต่อประเทศจีนเป็นอย่างไร
🇨🇳จีนได้แรงส่งจากการเปิดประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อที่ไม่สูงมาก
แนวโน้มเศรษฐกิจจีนดูดีขึ้นหลังจากการเปิดเมืองและการฟื้นตัวของภาคการบริโภคภายในประเทศ โดยทางเรามองว่าในปี 2023 จีนมีโอกาสเติบโตได้ราว 4-5% จากการตัดสินใจเปิดเมืองในช่วงไตรมาส 1 นี้
นอกจากนี้จีนยังมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะผ่อนปรนมาตรการ “Three Red Lines” ที่คอยกำกับการดูแลการยืมเงินจนเกินตัวของภาคอสังหา ซึ่งจะช่วยให้ภาคอสังหาริมทรัพย์มีสภาพคล่องมากขึ้นอีกด้วย
มากไปกว่านั้น จีนยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกชุด โดยมีการใช้เครื่องมือการเงินต่าง ๆ เช่น การออกหุ้นกู้พิเศษ การปรับลด Required Reserve Ratio หรือการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าตลาดการเงิน เป็นต้น
โดยปัจจุบันจีนคือหนึ่งในประเทศที่เงินเฟ้อต่ำ ซึ่งเหมาะกับการลงทุนในตราสารทุน ส่วนสาเหตุที่จีนยังสามารถคงอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำอยู่ได้นั้น อ้างอิงจาก Raymond Gui Head of Fixed Income Portfolio Management จากทาง UBS ได้ให้ความเห็นว่าด้วยภาพพื้นฐานที่จีนมีสถานะส่งออกสุทธิ (Net Exporter) ทำให้เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ เทียบกับประเทศอื่น ๆ ในโลกที่เผชิญปัญหาเงินเฟ้อ ขณะที่ประเด็นการถอดถอดหุ้นจีนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ก็ได้ผ่อนคลายลง และการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed กำลังถึงจุดกลับตัว
🇨🇳ภาพระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง จากการเติบโตแบบ Organic จากการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง
ภาพของจีนในระยะยาวยังสดใสด้วยแนวโน้มการเติบโตของชนชั้นกลาง ซึ่งลักษณะการใช้จ่ายของคนชนชั้นกลางคือจะเน้นไปที่สินค้าและบริการที่เหมาะสมตามฐานะรายได้ แปลความง่าย ๆ ว่าถ้าฐานะของคนกลุ่มนี้ดีขึ้น การใช้จ่ายจะมากตามขึ้นไปด้วยนั่นเอง
มีการคาดการณ์ที่น่าสนใจจากทาง UBS ที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย คือการเติบโตของตลาดเหล้าขาวจีนหรือ Baijiu ที่คาดว่าตั้งแต่ปี 2021 ไปจนถึงปี 2026 เหล้าขาวเกรดต่ำจะมีแนวโน้มการเติบโตที่หดตัวลงถึง -11% สวนทางเหล้าขาวเกรด Ultra Premium หรือเกรด Prestige ที่มีโอกาสเติบโตสูงถึง 12% ทบต้นต่อปี (ส.ค. 2022)
🇨🇳วางแผนเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคงด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี
ปัญหาหนึ่งของประเทศ Emerging Market คือมักจะเติบโตได้ระยะหนึ่ง จากการเติบโตอย่างรวดเร็วของประชากรชนชนชั้นกลาง แต่ท้ายที่สุดแล้วมักจะเติบโตต่อไม่ได้ เนื่องจากติดปัญหากับดักรายได้ปานกลาง โดยเหตุผลหลักมาจากการไม่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้
ประเทศจีนเองมองเห็นปัญหานี้ ทำให้เริ่มวางรากฐานการพัฒนาวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษ 21 โดยจากข้อมูลของ Morgan Stanley พบว่างบประมาณที่รัฐบาลจีนใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีเติบโตกว่า 5 เท่า นับตั้งแต่ปี 2009 และการสนับสนุนดังกล่าวยังทำให้ประเทศจีนมีคนที่จบการศึกษาในกลุ่ม STEM ที่สามารถผนวกความรู้หมวด วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และด้านคณิตศาสตร์ รวมเข้าด้วยกันมากเป็นอันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย
🇨🇳หุ้นจีนยังเป็น Good Diversifier
ตลาดหุ้นจีนมีค่าสหสัมพันธ์ที่ต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นหลัก ๆ ในโลก อย่างเช่น ยุโรป และสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้เองทำให้การลงทุนในจีนถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีการกระจายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มหาอำนาจกำลังเจอกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย
🇨🇳Valuation ของตลาดจีนยังถือว่าถูก เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปี และรอบข้าง
และในปัจจุบันเอง พบว่าหุ้นจีน MSCI China 10/40 และ CSI300 มีค่า P/E 12 เดือนข้างหน้า 11.11 และ 11.59 เท่า ตามลำดับ ซึ่งถูกกว่าค่าเฉลี่ยรอบ 5 ปี และรอบข้างอย่างไทยที่ 15.66 เท่า หรืออินเดียอยู่ที่ 18.61 เท่า (ณ 8 ม.ค. 2022 โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Bloomberg)
ในเมื่อเรามองบวกขนาดนี้ มีหรือที่เราจะไม่เตรียมกองทุนมาให้ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาควานหากองทุนจีนให้เมื่อย เพราะเราคัดมาแล้ว 3 กองทุน 3 สไตล์ จะมีกองในใจของใครบ้าง ตามมาดูครับ
กองทุนหุ้นจีนแนะนำ โดย FinVest
🇨🇳K-CHINA-A(A), K-CHINA-SSF, KCHINARMF
กองทุน KCHINA เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนอยู่นอกแผ่นดินใหญ่ และยังรวมถึงกลุ่มที่อยู่ในแผ่นดินใหญ่ A-shares ผ่าน JPMorgan Funds – China Fund โดยมุ่งเน้นบริษัทที่มีคุณภาพดี เติบโตสูง เน้นหุ้นกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น กลุ่มเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่เราคุ้นหูกันดีอย่าง Tencent Alibaba Meituan หรือจะเป็น กลุ่มลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ กลุ่มอุปโภคบริโภคและสุขภาพ ก็มีครบครันอยู่ในกองเดียว
🇨🇳KFACHINA-A, KFACHINSSF, KFACHINRMF, UBS(Lux) Invm CHN A Opp USD P Acc USD
กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ A-shares ผ่าน UBS China A Opportunity Fund โดยมุ่งเน้นบริษัทที่เป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม อ่านเพิ่มเติม https://finve.st/0vaw3
🇨🇳UCHI
เป็นที่รู้กันดีว่าจีนมีประชากรเยอะมาก และนั่นเปิดโอกาสให้กลุ่ม Healthcare มีโอกาสเติบโตในระยะยาว ถ้าไม่อยากพลาดการลงทุนในกลุ่มนี้ เราขอแนะนำกองทุน UCHI ที่ลงทุนในหลักบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเฮลธ์แคร์ (Healthcare) ทั้งแบบดั้งเดิมและรูปแบบใหม่ของประเทศจีน ผ่าน KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF ผสมผสานกับ Global X China Biotech ETF โดยครอบคลุมการลงทุนทั้งที่จดทะเบียนในตลาด A-shares และฝั่ง Offshore อย่างตลาดฮ่องกงและสหรัฐฯ
┏━━━━━━━━━━━━━┓
💫FinVest แอปลงทุนแบบใหม่ ที่ได้รวบรวมกองทุนทั่วโลก มาให้คุณเลือกกองทุนที่เหมาะสม และตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ได้ง่าย ๆ
⭐️ลงทุนได้ทั้งไทยและเทศ แอปแรกในไทย ให้คุณลงทุนได้จาก 39 บลจ. ชั้นนำ
⭐️ใช้งานง่าย เริ่มต้นแค่มือถือเครื่องเดียว ทำได้ตั้งแต่เปิดบัญชียันซื้อขายง่ายแค่ปลายนิ้ว
⭐️เคียงข้างคุณ มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยอัปเดตสภาพตลาด รวมถึงชี้เป้าการลงทุน
🔗เริ่มลงทุน – แอป FinVest https://finve.st/82bxs
🔗สอบถาม – Line https://finve.st/v2nxq
🔗ติดตาม – Instagram https://finve.st/710rb
🔗อ่านบทความ – Website https://finve.st/4datg
┗━━━━━━━━━━━━━┛
#FinVest #YourWingsYourWays #China #UOBAM #KASSET
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
อ้างอิง:
IWSR, NBS, Canback, Bernstein analysis & estimates