
เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักรถยนต์เทสล่า ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่กันแล้ว โดยไฟที่ชาร์จมาได้ทั้งจากพลังงานน้ำมัน ก๊าซ แสงแดด แต่วันนี้เราจะมาทำความรู้จักพลังงานอีกประเภทนึงกัน ที่เรียกว่า “ไฮโดรเจน” ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจกลุ่ม ESG กลุ่มธุรกิจที่มีแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วย E = Environment สิ่งแวดล้อม S = Social สังคม G = Governance ธรรมาภิบาล
ไฮโดรเจน (Hydrogen) เป็นธาตุหนึ่งในโลกที่อาจจะมีศักยภาพพอที่จะเป็นพลังงานสะอาดตัวใหม่ได้ ถ้านำมาใช้คู่กับเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) สามารถที่จะผลิตไฟฟ้าได้ โดยปล่อยของเสียแค่ความร้อนและน้ำเท่านั้น
มาดูกันดีกว่า ประเทศไหนเริ่มใช้ “โฮโดรเจน” แล้วบ้าง
เน้น ๆ เลยก็คือ ประเทศที่มีแผนการปรับใช้พลังงานไฮโดรเจนอันดับต้น ๆ ของโลก ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และเยอรมัน
เกาหลี
ภายในปี 2040 เกาหลีใต้วางแผนจะมีรถที่ใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิง 6.2 ล้านคันและสถานีเติมไฮโดรเจน 1,200 สถานี
เริ่มมีเส้นทางขนส่งจากแหล่งผลิตไปยังผู้บริโภคต่าง ๆ
รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนจากเซลล์เชื้อเพลิง (FCEVs: Fuel Cells Electric Vehicle) กว่า 60% ส่งออกโดยเกาหลีใต้
ญี่ปุ่น
จะมีการใช้ไฟจากพลังงานไฮโดรเจน ในหมู่บ้านโอลิมปิกทั้ง 6,000 หลัง
เยอรมัน
ส่วนในเยอรมันได้ริเริ่ม 11 โครงการเกี่ยวกับพลังงานไฮโดรเจนสีเขียว
เมื่อเรารู้แล้วว่า พลังงานไฮโดรเจนกำลังมาแรง คำถามต่อมาคือ พลังงานไฮโดรเจนดียังไง ต้องมีดีอะไรถึงทำให้หลาย ๆ ประเทศเริ่มใช้ไปแล้ว แน่นอนว่าไฮโดรเจนต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เรามาดูข้อดีของเจ้าพลังงาน “ไฮโดรเจน” กันดีกว่า
- น้ำและความร้อนที่ออกมาไม่มีมลภาวะ
- เติม 1 ครั้งวิ่งได้ไกลกว่า 300 ไมล์ (482 กิโลเมตร)
- ความปลอดภัยใกล้เคียงรถเติมก๊าซ แต่เติมเร็วกว่า เพียงไม่เกิน 5 นาที
ในปี 2018 มีรถพลังงานไฮโดรเจนจำนวน 12,300 คัน และสถานีชาร์จกว่า 380 สถานี และคาดการณ์ว่าจะเติบโต 8 เท่าตัว เป็น 3,000 สถานีภายในปี 2025
หากการเติบโตของการใช้รถไฮโดรเจนยังเติบโตต่อไป โลกจะลดการใช้น้ำมันได้ถึง 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 3.1 กิกะตันต่อวัน
แล้วการมาของพลังงานใหม่อย่าง “ไฮโดรเจน” ส่งผลต่อการลงทุนได้ยังไง ไปดูได้เลย
การมา “ไฮโดรเจน” ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและหมุนเวียน ส่งผลให้กลุ่มกองทุน ESG ที่เน้นลงทุนในธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและพลังงานที่ยั่งยืนนั้น หันมาสนใจและลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับ “ไฮโดรเจน” นั่นเอง
แล้วกองทุน ESG ดียังไง ทำไมถึงน่าลงทุน ?
- ความต้องการของพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) มีความคงที่มากกว่าพลังงานดั้งเดิม หรือ พลังงานทางเลือก (Alternative Energy) เนื่องจากนโยบายในหลายประเทศที่ให้นำพลังงานหมุนเวียนที่ไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไปใช้ก่อนพลังงานทางเลือก
- ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ต้นทุนการผลิตพลังงานหมุนเวียนถูกลงมาก ถึง 82%
- ในหลายประเทศมีการเก็บภาษี การปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทที่ผลิตพลังงานทางเลือก เปิดโอกาสให้พลังงานหมุนเวียนได้เพิ่ม Market Share
- นโยบายพลังงานหมุนเวียน ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการระบาด COVID-19 ทำให้หลายประเทศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มยุโรปที่ใช้นโยบายพลังงานหมุนเวียน
- ความร่วมมือของบริษัทเอกชน ที่มีนโยบายลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน เช่น เฟซบุ๊ก ฟอร์ด และเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นต้น โดยสหประชาชาติรายงานว่ารัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทต่าง ๆ ได้ประกาศ ลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ มีจำนวนบริษัทเพิ่มขึ้นเท่าตัว
หากเพื่อน ๆ คนใดต้องการลงทุนผ่านกองทุน ESG และกองทุนต่างประเทศ สามารถลงทุนได้ง่ายดายผ่านแอป FinVest
แล้วติดปีกการลงทุนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ไปกับ FinVest Your Wings Your Ways
Powered by Robowealth, BCC
ติดตามและรับข่าวสารกับเรา
อิสระของชีวิต ติดปีกการลงทุน
ชี้เป้าการลงทุนให้คุณ ลงทุนได้หลาย บลจ
โหลดและเปิดบัญชีได้ง่าย พร้อมเริ่มต้นลงทุนกับ FinVest
ติดตามรายละเอียดหน้าโปรโมชัน