
เนื่องจากการลงทุนระยะยาวนั้น มักจะให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงกว่า รวมไปถึงมีความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในระยะสั้น ทำให้เป็นที่นิยมของนักลงทุน เพราะสามารถทำให้ถึงเป้าหมายการลงทุนได้โดยใช้เงินลงทุนน้อยกว่าอีกด้วย
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าดูจากผลตอบแทนในอดีตจะพบว่า ในบางปี ตลาดหุ้นหรือสินทรัพย์บางประเภทสามารถสร้างผลตอบแทนได้กว่า 100% และในบางปีก็อาจติดลบได้ถึง 50% หรือเงินลงทุนหายไปครึ่งหนึ่งได้เช่นกัน ซึ่งหากนักลงทุนไม่วางแผนตั้งแต่แรก อาจทนการขาดทุนไม่ได้ ทำให้ต้องขายขาดทุนไป
เพื่อจำกัดความเสี่ยงในรูปแบบนี้ จึงเกิดกลยุทธ์การลงทุนแบบ Core & Satellite
หรือการลงทุนแบบพอร์ตหลักพอร์ตเสริมขึ้นมา ซึ่งการลงทุนแบบ Core & Satellite จะแบ่งการลงทุนออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
1.กลยุทธ์ลงทุนหลัก (Core)
จะลงทุนเป็นสัดส่วนใหญ่ของพอร์ต โดยมีสัดส่วนประมาณ 60-90% โดยจะเน้นลงทุนระยะยาว เน้นกระจายการลงทุนไปในหลาย ๆ สินทรัพย์ อาจปรับเปลี่ยนน้อยครั้งหรืออาจจะไม่ปรับเปลี่ยนเลยตลอดการลงทุน เช่น นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงจะลงทุนหุ้นเป็นส่วนใหญ่ของพอร์ต ส่วนนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำก็จะลงทุนตราสารหนี้เป็นส่วนใหญ่ เมื่อวางแผนแบบนี้จะทำให้ผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตใกล้เคียงกับที่วางแผนไว้
2.กลยุทธ์ลงทุนเสริม (Satellite)
จะลงทุนเป็นส่วนน้อย โดยมีสัดส่วนประมาณ 10-40% ของพอร์ตการลงทุน มีจุดประสงค์เพื่อจับจังหวะตลาดเมื่อมีโอกาสดีๆ ขึ้นมา จะเน้นผลตอบแทนในระยะสั้นและระยะกลางเป็นหลัก ซึ่งในกรณีที่การลงทุนแบบ Satellite ไม่เป็นไปตามที่คาด ก็ไม่ทำให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมเสียหาย เนื่องจากลงทุนเป็นส่วนน้อยของพอร์ตนั่นเอง
หากเพื่อน ๆ คนใดต้องการลงทุนผ่านกองทุนในประเทศและกองทุนต่างประเทศ สามารถลงทุนได้ง่ายดายผ่านแอป FinVest
แล้วติดปีกการลงทุนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ไปกับ FinVest Your Wings Your Ways
Powered by Robowealth
ติดตามและรับข่าวสารกับเรา
แค่โหลดและเปิดบัญชีสำเร็จ รับเงินเข้าบัญชี FinVest 200 บาท!
แค่โหลดและเปิดบัญชีสำเร็จ รับเงินเข้าบัญชี FinVest 200 บาท!
ผ่าน E-Wallet สำหรับลูกค้าใหม่ที่ลงทะเบียน และเปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน FinVest
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 – 31 มี.ค. 64
ติดตามรายละเอียดหน้าโปรโมชัน