
หลังจากตอนก่อนหน้า ทางเราได้เปิดต้นปีด้วยภาพระยะสั้นจากทาง Schroders กันไปแล้ว (อ่านได้ที่ https://www.finvest.co.th/5themesschroders22/) คราวนี้เราจะมาให้มุมมองเกี่ยวกับภาพการลงทุนระยะยาวกันต่อ แน่นอนว่าการมองภาพระยะยาว 5 ปีขึ้นไป คงไม่มีใครที่เราเห็นว่าเหมาะสมเท่ากับ Baillie Gifford เจ้าของปรัชญา Long-Term Philosophy Baillie Gifford เป็นใคร Baillie Gifford เป็นบริษัทจัดการการลงทุนที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1908 โดยคุณ Augustus Baillie และคุณ Carlyle Gifford โดยมีแนวคิดสืบสานปณิธานในการลงทุนระยะยาว ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล (AUM) อยู่ที่ราว ๆ 466.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูลจาก 30 กันยายน 2021) และพนักงานกว่าหลายพันชีวิต จากหลากหลายสายอาชีพ เพื่อทำความเข้าใจตัวธุรกิจอย่างท่องแท้ ปัจจุบันบริหารงานโดยคุณ Andrew Telfer Baillie Gifford เมื่อเราเข้าใจในปรัชญาของ Baillie Gifford กันแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาที่จะได้ศึกษาว่ามีธีมใดบ้าง ที่ทางกองทุนมองว่าจะมาปฏิวัติอนาคต คำกล่าวที่ว่า “Data is the new oil” ตอนนี้คงไม่ไกลเกินความเป็นจริงเท่าไรนัก เนื่องมาจาก 4 ธีมแห่งอนาคตที่ Baillie Gifford ยกขึ้นมานั้น ล้วนก้าวหน้าขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้ว 4 ธีมที่ว่ามานั้นมีอะไรบ้าง 1. Biotechnology จะมาปฏิวัติวงการ Healthcare มนุษย์พยายามไขความลับของร่างกายมานานหลายพันปี แต่แล้ววิวัฒนาการระดับก้าวกระโดด พึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยวิทยาการทางด้านข้อมูล ที่สามารถจัดการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลได้ง่ายดายกว่าและแม่นยำกว่าแต่ก่อน ส่งผลให้ทุกวันนี้มนุษย์มีความเข้าใจในชีววิทยาของร่างกายอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความเข้าใจชีววิทยาเชิงลึกนี้ สามารถปฏิวัติทั้งวงการแพทย์ให้ดีขึ้น และการแพทย์ที่ดีขึ้นช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ในอดีตที่ผ่านมามนุษย์มีความรู้ที่เรียกว่าน้อยมาก เกี่ยวกับร่างกายของเรา แต่ความลับนี้กำลังถูกไขออกเรื่อย ๆ ด้วยเทคโนโลยีอย่าง Next-Generation Sequencing (NGS) หรือการอ่านรหัสพันธุกรรมแบบใหม่ของทาง lllumina เพื่อเข้าใจการเรียงลำดับของยีนต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง เพราะเหตุนี้ การที่เราเข้าใจกลไกของร่างกายในระดับที่เล็กที่สุด จะส่งผลต่อการรักษาในอนาคตที่พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดอีกด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดว่าการเข้าใจความลับของธรรมชาตินั้น นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีคือ argenx ซึ่งปัจจุบันได้พยายามพัฒนาการรักษาแบบพุ่งเป้าเพื่อรักษาโรคภูมิแพ้ตัวเอง โดยเน้นไปที่การรักษาเซลล์ที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ตัวเองโดยตรง หรือ Moderna ที่ใช้เทคโนโลยี NGS เพื่อนำมาสร้างวัคซีนเฟสแรกได้ในเวลาเพียงแค่ 45 วัน นับจากได้ตัวอย่างการเรียงตัวของไวรัสชนิดดังกล่าว ในเมื่อข้อมูลสามารถพลิกโฉมอุตสาหกรรมการแพทย์ได้ และอุตสาหกรรมที่ต้องการข้อมูลของผู้ใช้งาน 2. Cashless World โลกใบใหม่ที่ไร้เงินสด ทว่าการจะให้โลกของการค้าขายออนไลน์เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนนั้น มือถือที่ทันสมัยและอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วรองรับระบบดังกล่าวถือเป็นเรื่องจำเป็น TSMC และ ASML ผู้คุมเทคโนโลยีการผลิตชิพที่รองรับเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง 5G จึงเหมือนเป็นกระดูกสันหลังของของธีมดังกล่าว นอกจากสังคมไร้เงินสดแล้ว 3. Sustainable Food การผลิตอาหารอย่างยั่งยืน ธุรกิจการเกษตรนั้นเป็นที่ธุรกิจที่สำคัญ แต่ทว่ากำไรเพียงน้อยนิด ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิต ลดการสูญเสีย จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อให้ผลผลิตออกมามีคุณภาพยิ่งขึ้น การติดตั้งกล้อง และ เซนเซอร์ เพื่อตรวจวัดปริมาณที่จำเป็นต่อการปลูกพืช และประมวลผลออกมาได้อย่างรวดเร็ว รถแทรคเตอร์อัจฉริยะของ Deere & Co เป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมนี้ ตัวอย่างเช่นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่สามารถแยกระหว่างผลผลิตกับวัชพืชออกจากกัน นอกจากนี้ยังสามารถเก็บเกี่ยวได้แม้ไร้คนขับ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงสุด แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ต้องอาศัยการผนวกรวมนวัตกรรมหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่นการใช้ Cloud เพื่อจัดเก็บข้อมูลและประมวลผล โดยผู้ให้บริการรายหลักของทาง Deere & Co คือ AWS หรือ cloud ของ Amazon นั่นเอง แต่ปัญหาเรื่องผลผลิตน้อยและไม่มีคุณภาพเป็นเพียงแค่ปัญหาเดียว ปัญหาอีกอย่างของธุรกิจการเกษตรและผลิตอาหารในปัจจุบันนั้น เดิมนอกจากจะกำไรน้อยแล้ว แต่ยังเป็นธุรกิจที่สร้างก๊าซเรือนกระจกหรือทำให้โลกร้อนสูงมากอีกด้วย Beyond Meat เล็งเห็นว่าการผลิตทดแทนเนื้อสัตว์แทนจากพืชนั้น ช่วยประหยัดต้นทุน เพิ่มปริมาณ ดีต่อสุขภาพ และที่สำคัญช่วยให้โลกมีอากาศที่ดีขึ้นจากการเกษตรได้ แต่นอกจากอุตสาหกรรมการผลิตอาหารแล้ว แต่แท้จริงแล้วการเดินทางในอนาคตยังมีอะไรที่ไปได้ไกลกว่า และรักโลกยิ่งกว่า ตัวอย่างเช่น การเดินทางด้วยเครื่องบินรับส่งไฟฟ้า (eVTOLs) ที่ Baillie Gifford ได้ไปลงทุนในบริษัท Joby Aviation หรือไม่ว่าการเดินทางผ่านแอพพลิเคชั่นเรียกรถอย่าง Lyft ที่ทำให้เราประหยัดเวลาในการหาที่จอด และปัจจุบันกำลังก้าวไปสู่การพัฒนารถยนต์ไรคนขับ ซึ่งมีส่วนช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวอีกด้วย แต่ระดับ Baillie Gifford แล้ว พวกเขายังมองไปไกลกว่านั้น พวกเขามองว่าถ้าการเดินทางมีแนวโน้มที่ง่ายและรวดเร็ว จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยกิจกรรมอื่น ๆ ในทางอ้อมอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ผู้คนจะมีเวลาเล่น Facebook หรือดู Netflix มากยิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทที่ยกมาสามารถหารายได้จากโอกาสโฆษณาที่เพิ่มมาขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าแค่การเดินทางดีและสะดวกขึ้น สามารถพัฒนาอะไรได้หลายอย่างจริง ๆ ทั้ง 4 ธีมที่ยกมาเรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว มาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครอยากลงทุนกับกองทุนจากทาง Baillie Gifford จะทำอย่างไร ? บอกได้เลยว่าทาง FinVest ไม่มีทางพลาดอยู่แล้วที่จะนำเสนอกองทุนดี ๆ ให้ผู้อ่านได้พิจารณากัน จะมีกองทุนใดบ้างนั้น อย่ารอช้า ตามต่อได้เลย 1. มองหาผู้ชนะรายใหม่ในอุตสาหกรรม ลงทุนครอบคลุมนวัตกรรมการแพทย์ครบทั้ง Value Chain ตั้งแต่การป้องกันก่อนเกิดจนถึงการรักษาแบบใหม่ ๆ หรือซื้อกองทุน Onshore กับบลจ ชั้นนำของไทยในธีมเดียวกันได้ที่ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finvest.co.th/เกาะเทรนด์-healthcare-ไปกับกองทุ/ ลงทุนในหุ้นเติบโตทั่วโลกที่มีความสามารถในการแข่งขัน ลงทุนในธีมเด่น ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ตัวอย่างหุ้นในพอร์ต หรือซื้อกองทุน Onshore กับ บลจ. ชั้นนำของไทยในธีมเดียวกันได้ที่ SSF RMF อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finvest.co.th/ปรัชญาการลงทุน-ระยะยาว/ 3. รวบรวมหุ้นที่สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกใบนี้ใน 4 ด้าน ได้แก่ การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ,ปัญหาสิ่งแวดล้อม, สุขภาพและคุณภาพการใช้ชีวิต และ ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ให้นักลงทุนได้ช่วยโลกง่าย ๆ ผ่านการลงทุน ตัวอย่างหุ้นในพอร์ต หรือซื้อกองทุน Onshore กับ บลจ. ชั้นนำของไทยในธีมเดียวกันได้ที่ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finvest.co.th/k-change-aa-ลงทุนเพื่อการเปลี่ยน/ 4. ลงทุนในหุ้นสหรัฐที่มีความสามารถในการแข่งขัน ลงทุนในธีมเด่น ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ตัวอย่างหุ้นในพอร์ต หรือซื้อกองทุน Onshore กับ บลจ. ชั้นนำของไทยในธีมเดียวกันได้ที่ กองทุนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 5. ลงทุนครอบการลงทุนทั่วทั้งทวีปเอเชีย (ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น) มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูงจากประเทศที่กำลังเติบโตลงทุนแบบ ระยะยาว ในหลักทรัพย์ทั่วภูมิภาคเอเชีย ตัวอย่างหุ้นในพอร์ต #FinVest #YourWingsYourWays
เป็นบริษัทบริหารจัดการการลงทุนที่เรียกได้ว่าโดดเด่นและแตกต่าง
แล้วอะไรอะไรที่ทำให้ บริษัทนี้โดดเด่นและแตกต่างจากบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน ?
สรุปภาพรวม อะไรที่ทำให้ Baillie Gifford โดดเด่นและแตกต่าง ?
ต้องบอกว่าที่ Baillie Gifford โดดเด่นได้ขนาดนี้เพราะด้วยการรักษาปรัชญาและวัฒนธรรมขององค์กรอย่าง Actual Investor หรือการเป็นนักลงทุนที่แท้จริงเอาไว้ โดยนิยามของคำว่าการเป็นนักลงทุนที่แท้จริง ถ้าให้สรุปง่าย ๆ คือการมองภาพใหญ่ระยะยาวระดับทศวรรษ แล้วจึงทำการลงทุนระยะยาว ไม่ได้มองแค่รายไตรมาศ แต่การกระทำในลักษณะนั้นจะไม่เกิดขึ้นได้เลย ถ้าทางกองทุนไม่กล้าฉีกกรอบเดิม ๆ อย่างการยึดติดกับดัชนีชี้วัด โดยแนวทางการต่อชิ้นส่วนเพื่อนำมารวมเป็นภาพใหญ่นั้น ทางกองทุนได้มีการสนับสนุนให้บุคคลากร สร้างสรรค์และแลกเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ๆ ด้วยชุดคำถามใหม่ ๆ ที่แปลกแหละแหวกแนวอย่างสม่ำเสมอ
4 ธีมการลงทุนที่ Baillie Gifford มองว่าจะมาปฏิวัติอนาคต
.
นั่นหมายความว่าเทคโนโลยีดังกล่าวก็สามารถพลิกอุตสาหกรรมอื่นได้เช่นกัน
เพื่อนำมาทำการวิเคราะห์มากเป็นอันดับต้น ๆ เลยคือ
ธุรกิจ E-commere
วิธีการที่บริษัท E-commerce ต่าง ๆ เลือกใช้ในการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของลูกค้า คือการสร้างระบบ Payment ขึ้นมาผ่านแอพพลิเคชั่น ตัวอย่างเช่น WeChatpay ของทาง Tencent หรือ ShopeePay ของทาง Sea Limited ด้วยเหตุดังกล่าว ส่งผลให้โลกใบนี้กำลังหมุนไปสู่สังคมที่ไร้เงินสด ด้วยการทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าเชิงลึกผ่านยอดการใช้จ่าย ทำให้ยอดขายของบริษัทเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
การจ่ายเงินที่ง่ายขึ้นไม่เพียงเปิดโอกาสให้กับผู้ค้ารายใหญ่เท่านั้น รายย่อยก็มีสิทธิที่จะค้าขายออนไลน์เช่นกัน Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายย่อยได้มีโอกาสสร้างเว็ปไซต์สำหรับขายของแบบสำเร็จรูป ซึ่งง่ายแก่การขายของขึ้นมา
แต่ยังมีอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาผลลัพธ์ให้ออกมาดีและคุ้มค่าที่สุด
นั่นคืออุตสาหกรรมผลิตอาหารอย่างยั่งยืน
อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคม
ยังเริ่มปรับตัวเพื่อลดคาร์บอนเพื่อโลกใบใหม่ที่ดีขึ้นอีกด้วย
4. Future of transport การเดินทางของวันพรุ่งนี้
ทุกวันนี้เป็นที่ทราบกันดีว่า โลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากการรถใช้น้ำมันไปสู่รถยนต์ใช้ไฟฟ้า เนื่องจากปัญหาเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้นำในธุรกิจนี้คือ Tesla
และแน่นอนว่าทั้ง 4 ธีมนั้น
ต่างแทรกซึมอยู่ในพอร์ตการลงทุนของทาง Baillie Gifford อย่างแนบเนียน
4 ธีมลงทุน กับสุดยอด 5 กองทุนยอดเยี่ยม
ที่ได้รางวัล 5 ดาวจากทาง Morningstar
กอง Offshore
Baillie Gifford Health Innovation
ตัวอย่างหุ้นในพอร์ต
– Illumina
– argenx
– SCBIHEALTH(A)
– LHHEALTH
– SCBIHEALTH(SSF)
2.
กอง Offshore,
Baillie Gifford Long Term Global Growth Fund
– Tesla
– Moderna
– ASML
– ONE-UGG-RA
– KFGG-A
– ONE-UGG-ASSF
– KFGGSSF
– KFGGRMF
– ONE-UGERMF
– KFGGRMF
กอง Offshore
Baillie Gifford Positive Change Fund
– Deere & Co
– TSMC
– K-CHANGE-A
– K-CHANGE-SSF
– K-CHANGE-RMF
กอง Offshore
Baillie Gifford US Equity Growth
– Shopify
– Netflix
– KF-US
– KFUSSSF
– KFUSRMF
นอกจาก 4 กองทุนที่กล่าวมานั้น ยังมีอีกกองทุนที่ถือได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามที่ยังไม่ถูกค้นพบ นั่นคือกองทุน Baillie Gifford Asia Ex Japan Fund นั่นเอง
กอง Offshore
Baillie Gifford Asia Ex Japan Fund
– Sea Limited
– Tencent
กองทุนทั้งหมดนี้สามารถซื้อที่แอป FinVest ได้เลยที่ https://finvest.onelink.me/CoWV/cd81c26c
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Line https://lin.ee/3wINMDBsz
Follow us on Website: www.finvest.co.th
ติดตามและรับข่าวสารกับเรา
อิสระของชีวิต ติดปีกการลงทุน
ชี้เป้าการลงทุนให้คุณ ลงทุนได้หลาย บลจ
โหลดและเปิดบัญชีได้ง่าย พร้อมเริ่มต้นลงทุนกับ FinVest
ติดตามรายละเอียดหน้าโปรโมชัน