
ข้อดีที่ควรรู้ก่อนลงทุนแดนมังกร
จากหลากหลายปัจจัยในปัจจุบัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกยังประสบกับความผันผวนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เริ่มเกิดความไม่แน่นอนขึ้นอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน เริ่มเกิดความกังวลด้านเศรษฐกิจ หากเกิดการล็อกดาวน์รอบสอง เนื่องจาก COVID-19 เริ่มกลับมาแพร่ระบาดหนักอีกครั้งทั้งในยุโรป ส่งผลให้ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของโลกบอบช้ำอีกครั้ง
ซึ่ง World Tourism Organization คาดการณ์ไว้อยู่ที่ติดลบ 58% แต่ปัจจุบันภาพรวมกลับติดลบไปถึง 65% แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นบางตลาดยังได้รับความสนใจในการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ นั่นก็คือ ตลาดหุ้นจีน โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนได้รับความนิยมมีดังนี้
- ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจจีนยังแข็งแกร่งและมีแนวโน้มการเติบโตในระดับสูง
- มูลค่าของตลาดหุ้นจีนยังคงมีความน่าสนใจ ถูกกว่าตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วและประเทศเกิดใหม่อื่นๆ
- ผลประกอบการไตรมาสที่ 3/63 ของบริษัทจีนออกมาดีกว่าไตรมาสที่ 2/63
- เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ และธนาคารกลางที่ยังคงเหลืออีกมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
- จีนมีการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่รัดกุมและรวดเร็ว ระบบเศรษฐกิจจึงได้รับผลกระทบอย่างจำกัด
- ข่าวดีเรื่องการอนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่สำเร็จแล้วกับกองทัพจีน
- สัญญาณเชิงบวกทางเทคนิค หลังดัชนีตลาดหุ้นจีน CSI300 ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญในรอบ 5 ปี
ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนสะท้อนถึงความน่าสนใจของการลงทุนระยะยาวในหุ้นจีน ทั้งนี้ ระยะสั้นตลาดอาจจะมีความเสี่ยงจากหนี้ภาคเอกชนและรัฐบาลที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนปรับฐานลงมา อย่างไรก็ตาม การทยอยเข้าซื้อหุ้นจีนต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจภาคการบริโภคและการบริการยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะหุ้นกลุ่มนี้ยังมีผลการดำเนินงานที่ดี รวมถึงเป็นปัจจัยหลักสำหรับการผลักดันเศรษฐกิจจีนในอนาคต นอกจากนี้ยังมีหุ้นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้มีแนวโน้มการเติบโตสูงตามการพัฒนาของจีน โดยเราจะแชร์ตัวอย่างของการลงทุนหุ้นจีนผ่านกองต่าง ๆ ดังนี้
UCHINA
ลงทุนใน: ALL China หุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
- เน้นลงทุนในหุ้นจีน Onshore กลุ่มภาคการบริโภคและการบริการ ส่วน Offshore จะเป็นกลุ่ม E-Commerce กลุ่มการศึกษา และเกมออนไลน์ ผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ โดยมีผู้จัดการกองทุนของ UBS Asset Management เป็นผู้บริหารสัดส่วนด้วยตนเอง
- โอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นชั้นนำของจีนที่มีอัตราการเติบโตสูงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จากการการวิเคราะห์หาหุ้นชั้นนำในแต่ละอุตสาหกรรมของจีน
- คาดหวังผลตอบแทนระยะยาวตามการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ที่เน้นพึ่งพาการบริโภคและการบริการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปัจจุบันและในอนาคต
- ความเสี่ยงสูง: ระดับ 6
TMBCOF
ลงทุนใน: China Offshore หุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นอกประเทศจีน
- เน้นลงทุนในหุ้นจีน Offshore กลุ่ม E-Commerce กลุ่มการศึกษา และเกมออนไลน์ ผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ ซึ่งมีอัตราการเติบโตในระดับที่สูงหรือเติบโตอย่างสม่ำเสมอและเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม โดยมีผู้จัดการกองทุนของ UBS Asset Management เป็นผู้บริหารสัดส่วนด้วยตนเอง
- โอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นชั้นนำของจีนที่มีอัตราการเติบโตสูงที่จดทะเบียนต่างประเทศ ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เรารู้จัก เช่น e-commerce กลุ่มการศึกษา และเกมออนไลน์
- กองทุนหลักติดอันดับ 5 ดาว Morningstar
- ความเสี่ยงสูง: ระดับ 6
MCHINA
ลงทุนใน: China Onshore หุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก
- เน้นการลงทุนในหุ้นจีน Onshore ผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ ซึ่งเน้นหุ้นกลุ่มธุรกิจ บริหารโดย Allianz โดยกองทุนเน้นการกระจายการลงทุนในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมภายในประเทศ
- โอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐฯ เช่น กลุ่มธุรกิจ Semiconductor หรือ กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตและพัฒนาพลังงานสมัยใหม่
- หวังผลตอบแทนระยะยาวตามการเติบโตของเศรษฐกิจจีน ที่เน้นพึ่งพาการบริโภคและการบริการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปัจจุบันและในอนาคต ทั้งนี้ยังลงทุนในหุ้นกลุ่มภาคการบริโภคและการบริการ รวมถึงหุ้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการก่อสร้างและการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ
- ความเสี่ยงสูง: ระดับ 6
ความผันผวนในด้านต่าง ๆ มากมาย การมองหาหุ้นหรือสินทรัพย์ที่น่าลงทุนและสามารถสร้างผลตอบแทนให้เราได้นั้น ต้องอาศัยหลายปัจจัยในการเลือก ซึ่งสัญญาณและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ช่วยสนับสนุนการลงทุนในหุ้นนั้น โดยการลงทุนในหุ้นจีนมีปัจจัยบวกดังนี้
ปัจจัยสนับสนุนและสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
- จีนเป็นประเทศแรกที่เผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ปัจจุบันสถานการณ์กลับมาคลี่คลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาแข็งแกร่งอย่างชัดเจนในลักษณะ V-Shape หลังช่วงการระบาด
- โดยในช่วงที่ผ่านมาจีนยังคงใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยเพียง 6% ของ GDP ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯที่ใช้ไปถึง 13% ของ GDP ทำให้จีนยังคงมีนโยบายการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกมาก
หุ้นจีนขนาดเล็กดีอย่างไร
- กลุ่มธุรกิจภาคการผลิตและการบริการเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว เช่น กลุ่ม IT และ Healthcare เป็นต้น
- โอกาสการเติบโตที่มากกว่าหุ้นใหญ่ หุ้นบริษัทจีนขนาดเล็กอยู่ในช่วงการเติบโตในระดับสูง และมูลค่าของบริษัทจีนขนาดเล็กยังคงต่ำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นขนาดเล็กในตลาดอื่น ๆ
- ความสามารถในการทำกำไรสูง หนี้สินต่ำ บริษัทจีนขนาดเล็กมีความสามารถในการทำกำไรต่อสินทรัพย์อยู่ในระดับที่สูง รวมถึงการพึ่งพิงเงินทุนจากการกู้ยืม (Leverage) ยังอยู่ระดับที่ต่ำโดยเฉลี่ย
- ความผันผวนต่ำ หุ้นจีนขนาดเล็ก (MSCI China Small Cap Index) มีความผันผวนต่ำกว่าหุ้นจีนโดยรวม (MSCI China Index) และต่ำกว่าหุ้นสหรัฐขนาดเล็ก (Russell 200) โดยเปรียบเทียบอีกด้วย
“ผลการดำเนินงานของกองทุนในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต”
Powered by: Robowealth
ติดตามและรับข่าวสารกับเรา
แค่โหลดและเปิดบัญชีสำเร็จ รับเงินเข้าบัญชี FinVest 200 บาท!
แค่โหลดและเปิดบัญชีสำเร็จ รับเงินเข้าบัญชี FinVest 200 บาท!
ผ่าน E-Wallet สำหรับลูกค้าใหม่ที่ลงทะเบียน และเปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน FinVest
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 – 31 มี.ค. 64
ติดตามรายละเอียดหน้าโปรโมชัน