ปกติแล้วการคาดการณ์ของ Wall Street สำหรับปีข้างหน้าจะเน้นไปที่
- การเติบโต
- อัตราเงินเฟ้อ
- ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น
แต่ว่าในปี 2025 เรื่องทั้งหมดนี้ถูกบดบัง เพราะมีชายคนหนึ่งที่ขโมยซีนตัวเลขต่างๆ ไปทั้งหมด
เขาคือ โดนัลด์ ทรัมป์
แน่นอน การกลับมาของ Donald J. Trump เป็นประเด็นหลักที่ทุกสายตาจับตามองจากนโยบายที่มักจะสร้าง “เซอร์ไพรส์” อยู่เสมอ
โดยภาพรวมแล้ว นโยบายของเขาที่เน้นไปที่การสนับสนุนธุรกิจคาดว่าจะส่งเสริมความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การพูดถึงการค้าระหว่างประเทศอย่างแข็งกร้าวของเขายังก่อให้เกิดความกังวล
และนี่คือมุมมองที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มอง Trump 2.0 ที่ Bloomberg News ได้รวบรวมมาไว้
1️⃣ ปัจจัยด้านการเติบโต
การที่รัฐบาลทรัมป์ชนะ และได้เสียงข้างมากทั้งสภาบนและสภาล่าง (“Red Sweep”) นักวิเคราะห์คาดว่าจะนำไปสู่ยุคที่สนับสนุนธุรกิจผ่านการลดกฎระเบียบต่าง ๆ
โดยจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ส่วนยุโรปนั้นความเชื่อมั่นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจยุโรปอยู่ระดับต่ำ และ ส่วนจีนยังคงประสบปัญหาในการจัดการกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
2️⃣ เงินเฟ้อ
ยังควบคุมได้แต่ไม่ยังไม่จบ
นโยบายการกีดกันการค้าและการจัดการกับผู้อพยพของทรัมป์ถูกมองว่าเป็นตัวกระตุ้นเงินเฟ้อใหม่ โดยที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กำลังพยายามควบคุม
อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อโดยรวมยังคงอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
3️⃣ นโยบายการเงิน
จากที่หลายฝ่ายคาดว่าจะมีการลดดอกเบี้ย ตอนนี้ภาพเปลี่ยนไปแล้ว
เนื่องจากนโยบายที่อาจก่อให้เกิดเงินเฟ้อของทรัมป์ อาจจำกัดการดำเนินการของธนาคารกลางสหรัฐฯ ผลคืออาจทำให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดไว้
ขณะที่ยุโรปคาดว่าจะใช้ท่าทีผ่อนคลายทางการเงินด้วยการลดดอกเบี้ยหลายครั้ง ส่วนญี่ปุ่นเป็นธนาคารหลักเพียงแห่งเดียวที่มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ย
4️⃣ นโยบายการคลัง
ความยั่งยืนของการใช้จ่ายของรัฐบาลทั่วโลกเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่ไม่มีการคาดการณ์ว่าประเทศต่าง ๆ จะลดการใช้จ่ายลง
ความกังวลเกี่ยวกับการลดภาษีภายในประเทศและการเพิ่มภาษีกับต่างประเทศภายใต้การนำของทรัมป์ในสหรัฐฯ สร้างความหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการการจ้างงานและการเติบโตในสหรัฐฯ
5️⃣ ภาษีศุลกากร
แม้ว่าทุกคนจะเห็นตรงกันว่าภาษีศุลกากรใหม่จะเกิดขึ้น บางคนเชื่อว่าท่าทีแข็งกร้าวของทรัมป์เป็นเพียงการต่อรอง และคาดว่าการกีดกันทางการค้าจริงจะเจาะจงและไม่รุนแรงเท่ากับที่ผ่านมา และตามคาดจีนจะเป็นฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
6️⃣ หุ้น
นักลงทุนคาดว่าการขึ้นราคาหุ้นที่ขับเคลื่อนโดยบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่จะขยายตัวต่อไป
รวมไปถึงโอกาสที่สำหรับการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กในสหรัฐฯ
ในขณะที่หุ้นทั่วโลกที่มีราคาถูกอาจเป็นโอกาสซื้อที่ดี
7️⃣ พันธบัตร
นักวิเคราะห์คาดกันว่าความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นและมีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จะสูงขึ้น
8️⃣ เครดิต
ความเสี่ยงอาจเอียงไปทางขาต่ำ แต่ผลตอบแทนยังคงดี ธนาคารกลางหลายแห่งกำลังลดอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ยังต่ำอยู่
นักวิเคราะห์หลายค่ายชอบเครดิตมากกว่าพันธบัตรรัฐบาลในการแสวงหาผลตอบแทนส่วนต่าง
9️⃣ สินค้าโภคภัณฑ์
ทองคำเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ดีในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน โดยนักวิเคราะห์มองว่าราคาขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนของตลาด
ส่วนโลหะมีค่าอื่น ๆ การเติบโตที่ดีขึ้นและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี เช่น ศูนย์ข้อมูล โรงไฟฟ้า อาจช่วยสนับสนุนความต้องการ
ส่วนน้ำมัน ไม่มีใครมองว่าน้ำมันจะปรับตัวขึ้นมากไปกว่านี้แล้ว
1️⃣0️⃣ ค่าเงิน
ดอลลาร์สหรัฐฯ ดูเหมือนจะแพงไปแล้ว แต่โดยรวมแล้ว ตลาดยังคาดว่าจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นในอนาคตอันใกล้เนื่องจากนโยบายของทรัมป์
โดยหลายสถาบันคาดการณ์ว่าอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์กับยูโรจะใกล้เคียงกัน
1️⃣1️⃣ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ปัญญาประดิษฐ์มีปัจจัยขับเคลื่อนหลักอยู่ 2 เครื่องยนต์ โดยจากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มผลผลิต และจากการลงทุนของบริษัทและรัฐบาลในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเทคโนโลยี
1️⃣2️⃣ ความเสี่ยง
- สงครามการค้าครั้งที่สอง
- ฟองสบู่ของปัญญาประดิษฐ์แตก
- นักลงทุนพันธบัตรหมดความอดทนกับรัฐบาลที่ใช้จ่ายเกินตัว
- สามเรื่องนี้คือสิ่งที่อยู่ในความกังวลของตลาด
- แต่สิ่งที่ใหญ่ที่สุดคือการที่ทรัมป์เพิ่มภาษีศุลกากรมากเกินไป นำไปสู่การตอบโต้และกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ธีมการลงทุนในปีนี้
🇺🇸 สหรัฐฯ ยังน่าสนใจ
เศรษฐกิจสหรัฐฯ และสินทรัพย์ของสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงเป็นผู้นำโลกต่อไป
โดยได้รับแรงขับเคลื่อนใหม่จากทรัมป์และได้รับประโยชน์จากการที่ตลาดหลักอื่น ๆ มีความน่าสนใจน้อยลง
โดยหลายตลาดเหล่านี้อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
โดย JPMorgan Chase & Co. มองว่านี่จะเป็นโลกที่ “ความพิเศษของสหรัฐฯ จะถูกย้ำขึ้นอีกครั้ง”
KFUS เป็นซีรีส์กองทุนน่าสนใจ
- KFUS-A – กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้-สะสมมูลค่า
- KFUSRMF – กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ
จุดเด่นหลัก 3 ข้อของ KFUS
- กองทุน KFUS ลงทุนในกองทุนหลัก GQG Partners US Equity Fund ที่เน้นการลงทุนในหลักทรัพย์ใช้ทั้งกลยุทธ์ Top-down และ Bottom-up
- GQG Partners ลงทุนในบริษัทคุณภาพสูง ราคาน่าสนใจ เน้นความแข็งแกร่งทางการเงิน การเติบโตยั่งยืน และการบริหารจัดการที่ดี เพื่อมุ่งลดความเสี่ยงด้านขาลง พร้อมให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาวตลอดวัฏจักรตลาด
- กองทุนหลักทำผลตอบแทนชนะดัชนีอ้างอิงได้อย่างต่อเนื่อง
📈 เงินเฟ้อยังสูงอยู่
อัตราเงินเฟ้อถูกมองว่าภาพรวมยังควบคุมในได้ในระดับกว้าง ๆ
แต่ยังมีความไม่แน่นอนถึงการลดไปสู่ระดับเป้าหมายอย่างต่อเนื่องได้
เนื่องจากทรัมป์ วางกำแพงภาษีอย่างแข็งกร้าว
Apollo Global Management ระบุว่า “มันจะใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ที่ Fed จะไปถึงเป้าหมายสุดท้ายในการควบคุมเงินเฟ้อ” และหลายสำนักมองไปในทางเดียวกันว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน
SCBGOLD เป็นซีรีส์กองทุนน่าสนใจ
- SCBGOLDH – กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (ชนิดสะสมมูลค่า)
- SCBGOLD – กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ (ชนิดสะสมมูลค่า)
- SCBGOLDHRMF – กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ เพื่อการเลี้ยงชีพ
จุดเด่นหลัก 3 ข้อของ SCBGOLD
- ทองคำมีความสามารถในการรักษาอำนาจซื้อ พิสูจน์ได้จากผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อในระยะยาว
- ทองคำทำผลตอบแทนได้ดี เมื่อมีสถานการณ์ไม่แน่นอน
- กองทุนค่าเก็บค่าธรรมเนียมต่ำและให้ผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีอ้างอิง
🍃 อย่าหวังว่าหุ้นจะเขียวขจีแบบปีที่แล้ว
แทบทุกสถาบันเตือนนักลงทุนว่าอย่าคาดหวังผลตอบแทนจากหุ้นเกิน 20% ในปีนี้เหมือนปีที่แล้ว
แต่ยังไม่ค่อยมีใครยอมรับว่าฟองสบู่ที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะจบลง
BNY เชื่อว่า “บทบาทของ AI ในโลกจะยิ่งใหญ่กว่าที่เทคโนโลยีอื่น ๆ เคยทำมา ในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่”
แม้จะไม่มีใครอื่นที่มองโลกในแง่ดีเท่านี้ แต่หลายคนคาดว่าการยอมรับเทคโนโลยีนี้จะแพร่หลายและทำให้เกิดการเติบโตที่มากขึ้น
KT-WTAI เป็นซีรีส์กองทุนน่าสนใจ
- KT-WTAI-A – กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดสะสมมูลค่า)
- KT-WTAI RMF – กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ
จุดเด่นหลัก 3 ข้อของ KT-WTAI
- กองทุน KT-WTAI ลงทุนในกองทุนหลัก Allianz Global Artificial Intelligence ครอบคลุม 3 ธีมหลักเทคโนโลยีปัญญาประดิษญ์ AI Infrastructure, AI Applications และ AI-enabled Industries
- ณ ตอนนี้ เราอยู่แค่จุดเริ่มต้นของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมใหม่เท่านั้น “We’re at the Beginning of a New Industrial Revolution” เจนเซ่น หวงCEO ของ Nvidia ได้กล่าวไว้
- AI มีบทบาทสร้างผลิตภาพที่สูงขึ้นในระบบเศรษฐกิจได้จริง
อ่านเพิ่มเติม 7 เรื่องต้องรู้ ก่อนลงทุนกองทุน Allianz Global Artificial Intelligence
📄 พันธบัตร ถือเพื่อสร้างรายได้เป็นหลัก
ปีนี้อาจไม่ใช่ “ปีแห่งพันธบัตรสหรัฐฯ” ที่จะได้ผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ
เนื่องจากระดับดอกเบี้ยมีโอกาสสูงขึ้นต่อและความกังวลเกี่ยวกับการกู้ยืมเกินขนาดของรัฐบาลยังคงมีอยู่
แต่ผลตอบแทนจากพันธบัตรจากอัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อยังคงแข็งแกร่ง
และยังมีโอกาสที่ซ่อนอยู่ในตลาดอื่น
ความเห็นของ Schroders มองว่า “เหตุผลดั้งเดิมในการถือครองพันธบัตร เพื่อสร้างรายได้ กำลังกลับมาอีกครั้ง”
UGIS เป็นซีรีส์กองทุนน่าสนใจ
- UGIS-A – กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ
- UGISFX-N – กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ เอฟเอ็กซ์ ฟันด์ – ชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ
- UGIS-N – กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ
- UGISRMF – กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ
จุดเด่นหลัก 3 ข้อของ UGIS
- กองทุน UGIS ลงทุนในกองทุนหลัก PICMO GIS Income Fund ซึ่งมีนโยบายมุ่งมั่นรักษาเงินต้นและสร้างกระแสเงินสดให้ได้สม่ำเสมอ
- กองทุน PICMO GIS Income Fund มีความยืดหยุ่นในกลยุทธ์ ลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภทได้ทั่วโลก
- กองทุน PICMO GIS Income Fund บริหารจัดการโดยทีมผู้จัดการลงทุนมีฝีมือมากประสบการณ์ พิสูจน์ผลงานด้วยการทำผลตอบแทนชนะดัชนีอ้างอิงได้ต่อเนื่อง
อ่านเพิ่มเติม 5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับกองทุนตระกูล UGIS
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
#FinVest #YourWingsYourWays