หุ้นที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีโดดเด่น ส่วนใหญ่แล้วในเชิงพื้นฐานคือหุ้นที่มีการเติบโตสูง ๆ

หุ้นที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่ดีโดดเด่น ส่วนใหญ่แล้วในเชิงพื้นฐานคือหุ้นที่มีการเติบโตสูง ๆ

ทราบหรือไม่ครับว่า ถ้าเราเอาผลตอบแทนของหุ้นรายตัวที่อยู่ในดัชนี S&P500 ตั้งแต่ปี 1985 ถึงปี 2021 มากางออก จะพบว่ามีบริษัทแค่ 18.6% ที่สามารถสร้างผลตอบแทน 2.5 เท่า ในระยะเวลา 5 ปี แทบไม่ต้องจินตนาการเลยว่าถ้าเอาทั้งตลาดมาคำนวณ หุ้นที่สร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นแบบนี้ได้คงมีเพียงแค่หยิบมือแน่ ๆ 

ทาง Baillie Gifford ยังได้ทำการศึกษาต่อไปอีกว่า แล้วหุ้นกลุ่มไหนนะที่สามารถทำผลตอบแทนได้สูงสุด? และบทสรุปก็คือหุ้นเหล่านั้นต้องมีการเติบโตของอัตรากำไรต่อหุ้นสูงสุด ยังไม่พอ จะต้องเป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงที่สุด 20% แรกของกลุ่ม ถึงจะเป็นหุ้นกลุ่มที่ทำผลตอบแทนได้สูงสุด พูดง่าย ๆ ถ้าตลาดหุ้นเป็นสนามสอบ หุ้นพวกนี้ก็เหมือนเด็กที่สอบได้คะแนนสูงสุด 20% แรก

ทีนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญ คำถามที่ว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้หุ้นเหล่านี้กลายเป็นหุ้น 20% แรก ใช่การดำเนินธุรกิจที่อยู่ใน Mega Trend หรือเปล่า?

.

🇺🇲แค่อยู่ใน Mega Trend ยังไม่พอ ผู้ชนะในแต่ละหมวด ล้วนมีจุดร่วมสำคัญเรียกว่า “Cultural Outliers”

เรามักมีความเข้าใจว่าหุ้นที่ทำผลตอบแทนได้สูง ๆ ขอเพียงแค่เป็นธุรกิจที่ล้อไปกับ Mega Trend ซึ่งถึงแม้ข้อความดังกล่าวจะเป็นจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

ถ้าเปรียบเทียบแนวโน้มแห่งอนาคต เป็นน่านน้ำที่อุดสมบูรณ์ และในน่านน้ำนั้น จะมีเพียงแค่กัปตันเรือชั้นยอดเท่านั้นที่ได้ครอบครองฝูงปลาเกือบทั้งหมด ในโลกธุรกิจก็เช่นกัน บริษัทที่โดดเด่นเท่านั้นที่จะได้ครอบครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ไป

แล้วจะอธิบายสิ่งที่เรียกว่า “บริษัทที่โดดเด่น” ได้อย่างไร ทาง Baillie Giffotd ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังจนพบลักษณะร่วมที่สำคัญที่เรียกว่า “Cultural Outliers” หรือมีวัฒนธรรมองค์กรที่โดดเด่น ซึ่งจุดนี้เองเป็นจุดที่แตกต่างระหว่างบริษัทผู้ชนะกับบริษัทธรรมดาทั่วไป

หากจะบรรยายนิยามของคำข้างต้น ทาง Baillie Gifford ได้กล่าวถึง “การที่บริษัทผู้ชนะมีความสามารถที่จะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว มีการลงทุนทดลองทำอะไรใหม่ ๆ อยู่เสมอ รวมไปถึงกล้าทำลายขนบธรรมเนียมหรือความสำเร็จเดิม ๆ ของตัวเอง” ซึ่งแนวคิดเหล่านี้มักจะสะท้อนออกมาตั้งแต่ผู้ก่อตั้ง ยันพนักงาน ที่กล้าโอบรับไอเดียใหม่ ๆ อีกด้วย คุณลักษณะที่ว่ามาเหล่านี้นี่เองที่มักสร้าง Surprise ให้แก่นักลงทุน รวมไปถึงตลาดด้วย

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ทาง Baillie Gifford ได้ให้เหตุผลเสริมว่า “เราตอบได้ยากมากว่าบริษัทหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้อย่างไรในอนาคต แต่ที่เราตอบได้แน่คือวัฒนธรรมองค์กรแบบนี้ทำให้องค์กรรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอและทำให้นักลงทุนอย่างเรากล้าถือลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

.

🇺🇲 แล้วจะหาหุ้นแบบนี้เจอได้อย่างไร? บอกเลยว่าไม่ต้องหาเอง เพราะ Baillie Gifford คัดมาให้แล้ว

ทางทีมงาน Baillie Gifford มีกองทุนที่ชื่อ Worldwide US Equity Growth Fund ที่กลยุทธ์หลักคือคัดสรรหุ้นที่ตรงตามหลัก “Cultural Outliers” ให้นักลงทุนเรียบร้อย ไม่ต้องเสียเวลาไปงมทีละตัว ซึ่งแน่นอว่าก่อนจะคัดหุ้นเข้าพอร์ตแต่ละตัว หุ้นเหล่านี้จะถูกทดสอบด้วยชุดคำถามตามสไตล์ Baillie Gifford อาทิ 

“ถ้าบริษัทที่เรากำลังดูอยู่เป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรม โลกจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน?”

“วัฒนธรรมองค์กรอะไรที่เพิ่มความน่าจะเป็นให้บริษัทเป็นผู้ชนะในอนาคต?”

“เป็นไปได้ไหมที่พวกเราจะสามารถทำผลตอบแทน 2.5 เท่า ในช่วงเวลา 5 ปี? เรามีโอกาสมากน้อยแค่ไหน?”

ทีนี้เราลองมาดูกันดีกว่าหุ้นในพอร์ตของกองทุนจะมีหุ้นตัวไหนเข้าข่ายบ้าง มาดูกัน

.

🇺🇲ตัวอย่างหุ้นที่ทำการลงทุน (31/01/2023)

Shopify ตัวช่วยให้ผู้คนมีร้านค้าของตัวเองได้ง่ายขึ้น ด้วยเว็บไซต์สำเร็จรูปรวมไปถึงเครื่องมือหลังบ้านต่าง ๆ เช่นระบบรับเงิน หรือแม้กระทั่งเชื่อมต่อไปยังโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้งหมดเพื่อยกระดับการขายของออนไลน์ (ผนวกออฟไลน์) ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น

Tesla รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่ใคร ๆ ก็ต้องพูดถึง กับสมรรถนะรอบด้านที่มาพร้อมความหรูหราในราคาไม่แรง รัฐสนับสนุน ซึ่งในอนาคตก็มีสินค้าล้ำ ๆ อีกมากที่รอการจำหน่ายเช่น Solar Roof, Power Wall และอื่น ๆ อีกเพียบ

Netflix ผู้นำด้าน Streaming หนังและซีรีส์ที่เพลิดเพลินที่ไหนก็ได้ เปลี่ยนรูปแบบความบันเทิงไปอย่างสิ้นเชิง ทราบหรือไม่ว่าในปัจจุบันในแอป Netflix มีเกมส์ให้เล่นแล้วนะ

Amazon หลายคนอาจจะเข้าใจว่า Amazon เด่นที่แพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์และด้าน Cloud Computing ผ่าน Amazon Web Services แต่แท้จริงแล้ว Amazon ยังเข้าไปถือครองนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่รอการเฉิดฉายอีกเพียบ เช่น เข้าไปถือหุ้นบริษัท Rivian ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งแพลตฟอร์ม Stream เกมส์ชื่อดังอย่าง Twitch 

Nvidia ถ้าให้นึกถึงบริษัทที่ทำการ์ดจอสักบริษัท คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก Nvidia ที่ผลิตและออกแบบ GPU ที่ปัจจุบันเป็นที่ต้องการอย่างมากเพราะมักจะถูกนำไปใช้ในการประมวลผลในพวก ปัญญาประดิษฐ์ แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะยังเป็นชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์สมัยใหม่ Data center เกมหรือเครื่องยนต์ที่ใช้การประมวลผลขั้นสูง

🇺🇲ลงทุนในหุ้นที่วัฒนธรรมองค์กรดี มีชัยไปกว่าครึ่ง กับกองทุน Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth
🇺🇲ลงทุนในหุ้นที่วัฒนธรรมองค์กรดี มีชัยไปกว่าครึ่ง กับกองทุน Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth

.

🇺🇲ลงทุนผ่าน Baillie Gifford WW US Equity Gr A USD ได้แล้ววันนี้ที่ FinVest🇺🇲

มัดรวมโปรโมชันจาก FinVest >> กดเพื่อดูเพิ่มเติม

┏━━━━━━━━━━━━━┓

💫FinVest แอปลงทุนแบบใหม่ ที่ได้รวบรวมกองทุนทั่วโลก มาให้คุณเลือกกองทุนที่เหมาะสม และตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ได้ง่าย ๆ

⭐️ลงทุนได้ทั้งไทยและเทศ แอปแรกในไทย ให้คุณลงทุนได้จาก 39 บลจ. ชั้นนำ

⭐️ใช้งานง่าย เริ่มต้นแค่มือถือเครื่องเดียว ทำได้ตั้งแต่เปิดบัญชียันซื้อขายง่ายแค่ปลายนิ้ว

⭐️เคียงข้างคุณ มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยอัปเดตสภาพตลาด รวมถึงชี้เป้าการลงทุน

🔗เริ่มลงทุน – แอป FinVest https://finve.st/82bxs

🔗สอบถาม – Line https://finve.st/v2nxq

🔗ติดตาม – Instagram https://finve.st/710rb

🔗อ่านบทความ – Website https://finve.st/4datg

┗━━━━━━━━━━━━━┛

#FinVest #YourWingsYourWays #BaillieGifford

อ้างอิง https://www.bailliegifford.com/en/ireland/professional-investor/literature-library/institutional-only-literature/philosophy-and-process/us-equity-growth-philosophy-and-process/

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

Related Posts