ในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา หุ้นเทคโนโลยี เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วโลก ต่างเข็ดขยาดกันเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้หุ้นกลุ่มดังกล่าวบางส่วนได้กลายเป็นหุ้นคุณค่าราคาถูก ในขณะเดียวกัน ณ ทุกจังหวะของชีวิตเราตอนนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางซ้ายหรือขวา กลับถูกรายล้อมด้วยเทคโนโลยีไปแทบทั้งสิ้น
เราลองมาดูเหตุผลกันดีกว่าว่าจริงๆ แล้ว หุ้นเทคโนโลยี มันเป็นแค่กระแส หรือว่าลงทุนได้จริง
ลงทุนได้ผ่านกองทุน KFHTECH-A, BGF World Technology A2
┏━━━━━━━━━━━━━┓
🍭DCA ที่ FinVest เจ๋งอย่างไร? กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
🍭มัดรวมโปรโมชันกองทุนหลายต่อ ที่เดียวจบ กดเพื่ออ่านเพิ่มเติม
┗━━━━━━━━━━━━━┛
—-
📳 ลงทุน หุ้นเทคโนโลยี วันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า กับ BGF World Technology A2
📳 หุ้นเทคโนโลยี ทำไมน่าสนใจ และทำไม “พื้นฐาน” แข็งแกร่ง?
ลำดับแรกเลยคือ ถ้าเราลองมองหาผู้ชนะในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งหมดกลับเป็น หุ้นเทคโนโลยี ทั้งสิ้น
ทีนี้คำถามถัดมาคือความแข็งแกร่งของ หุ้นเทคโนโลยี พวกนี้มาจากไหน คำตอบแรกคือเรื่องของความสามารถในการขยายตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
ลองนึกภาพ Generative AI อย่าง ChatGPT ก็ได้ครับ ขอแค่ใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็น ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก คุณก็สามารถเข้าถึงได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ตัวเลขผู้ใช้งานถึงจำนวน 100 ล้าน ในเวลาเพียงไม่นาน นี่แหละครับคือเรื่องของ “Network Effect” ที่เป็นตัวช่วยผลักกำไรให้เติบโตพุ่งเร็วกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ในทางกลับกัน สมมติว่าร้านอาหารอย่าง Shake Shack จะเข้ามาเปิดสาขาที่ไทย มันคงไม่ได้ง่ายขนาดนั้นใช่ไหมครับ ไหนจะหาที่ทาง ไหนจะต้องตกแต่งร้าน วางระบบต่างๆ นาๆ อีก เอาเป็นว่าการจะสเกลนั้นไม่ง่ายแบบ หุ้นเทคโนโลยี แน่ แถมการจะเพิ่มยอดขายได้มากๆ เร็วๆ ก็ต้องอาศัยระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอีก เห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่าทำไม หุ้นเทคโนโลยี ได้เปรียบกว่าธุรกิจแบบดั้งเดิม
และอีกประเด็นเน้นๆ คือ หากอ้างอิงข้อมูลจาก Credit Suisse และ BlackRock พบว่า หุ้นกลุ่มนี้ไม่ค่อยมีหนี้ มีเงินสดเหลือเยอะ รวมถึงมีกระแสเงินสดที่เป็นบวก อีกด้วยครับ สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้เองเป็นตัวยืนยันว่า หุ้นเทคโนโลยี โดยรวมๆ แล้วทำไมน่าสนใจแและมี “พื้นฐาน” แข็งแกร่ง
📳 นึกถึงคนเก่ง ต้องนึกถึงบริษัทเทคโนโลยี
ถ้าให้ลองนึกถึงสถานที่ที่มีแต่คนเก่งๆ อยากเข้าไปทำงานในยุคนี้ คงหนีไม่พ้นบริษัทที่ทำทางด้านเทคโนโลยีเป็นแน่ ทั้งค่าจ้างที่สมน้ำสมเนื้อ รวมไปถึงบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยคนเก่ง คุณลักษณะเหล่านี้นี่เองที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้เหล่า Talents จากทั่วโลกเดินหน้าสู่บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งยังไม่นับการที่บริษัทเหล่านี้เองก็ต่างใช้ทุกวิถีทางเพื่อแก่งแย่งชิงคนเก่งให้มาทำงานด้วย เช่น การจ่ายผลตอบแทนพนักงานด้วยหุ้นเพิ่มเติม ทำให้เป็นแรงจูงใจสำหรับการขับเคลื่อนให้บริษัทเติบโตก้าวไปข้างหน้าแบบมีส่วนได้ส่วนเสีย สุดท้ายแรงงานด้านนี้ก็ขาดแคลนและแสนจะสุดเนื้อหอมไปตามๆ กัน
และแน่นอนว่าเมื่อบริษัทได้คนที่เก่งมากเข้ามาทำงาน นวัตกรรมเกิด ผลประโยชน์สุดท้ายก็จะตกมายังผู้ถือหุ้นอย่างเราได้
📳 ทุกอย่างล้วนเป็นเทคโนโลยี อยู่ที่ว่าเรามองมันในมิติเวลาไหน ?
มาวันนี้เราอาจจะมองว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องทั่วไป ใครๆ ก็ทำได้ มันน่าตื่นเต้นแค่ไหนกันเชียว แต่ถ้าลองย้อนกลับไปสัก 20-30 ปีที่แล้วบอกเลยว่าทุกคนต่างตื่นเต้นกับอินเทอร์เน็ตมาก มากเสียจนกระทั่งเกิดวิกฤต Dot com ขึ้นมา
ท้ายที่สุดอินเทอร์เน็ตก็พิสูจน์ตัวเองว่ามันจำเป็น โดยเฉพาะเวลาที่เราไม่มีมัน เสมือนเป็นปัจจัยดำรงชีพไปแล้ว และก็ต้องยอมรับความจริงอีกข้อว่าเทคโนโลยีบางอย่างมันอยู่ใกล้ชิดในชนิดที่เรียกว่าหลอมรวมเข้าไปกับชีวิตประจำวันเราจนบางทีเราก็แยกไม่ออก
เช่นบางทีสั่งสินค้าและสั่งอาหารผ่านทางมือถือ แทนที่จะเดินออกไปซื้อ หรือแม้กระทั่งรถยนต์ไฟฟ้าที่เมื่อสัก 10 ปี ก่อนคงเป็นเรื่องไกลตัวมาก แต่ตอนนี้เริ่มมีให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นตามท้องถนน
และถ้าโลกยันหมุนไปข้างหน้า แปลว่ายังมีโอกาสในการลงทุนในเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า สดกว่า น่าตื่นเต้นกว่า อยู่เสมอ และที่สำคัญ บริษัทเหล่านี้นี่เองที่จะกลายเป็นอนาคต
📳 แล้วถ้าจะลงทุน จะลงผ่านกองทุนไหนดี? วันนี้ FinVest ขอแนะนำ BGF World Technology A2
กองทุน BGF World Technology A2 เน้นลงทุนในเทคโนโลยีที่ทางกองทุนคิดและวิเคราะห์มาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า มันจะกลายเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนโลกไปสู่อนาคต
โดยในปัจจุบัน เทคโนโลยีที่กองทุนเล็งเห็นแล้วว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถยกระดับชีวิตมนุษย์ได้ เช่น Artificial Intelligence, Digital Payment, 5G และ Cloud Computing
📳สไตล์การลงทุนของ BGF World Technology A2
BGF World Technology A2 ใช้หลักการ Bottom Up & Risk-Balance approach โดยเน้นกระจายลงทุนใน หุ้นเทคโนโลยี ทั่วโลก ทั้งขนาดใหญ่ และกลางลงมา ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน เพื่อเป็นการควบคุมความเสี่ยง และให้ผลตอบแทนมีความ Smooth ไม่หวือหวาขึ้นสุดลงสุดจนเกินไป ทั้งนี้หุ้นในพอร์ตหลักๆ มีการจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ก็มีกระจายลงทุนไปในประเทศจีนหรืออื่นๆ ได้ด้วย
โดยการค้นหาหุ้นนั้น ทางทีมการจะเริ่มค้นหาไอเดียจากหุ้นทั้งในตลาดและ Unicorn นอกตลาด ราวๆ 3,700 บริษัท จากนั้นนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสริมด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ผสานด้วยหลักการคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow) รวมไปถึงจัดอันดับให้คะแนนจากการเติบโตของรายได้ และ Free Cash flow Margin อีกด้วย
📳พอร์ตการลงทุน (28 ก.พ. 5023)
ปัจจุบันหมวดอุตสาหกรรมที่ BGF World Technology A2 ลงทุนเป็น ดังนี้
• Software & Services 39.54%
• Semiconductor & Equip 24.95%
• Tech Hardware & Equip 11.44%
• Media & Entertainment 8.19%
• Retailing 4.53%
หุ้นในพอร์ตที่ถือครองสูงสุด 5 อันดับแรก
• APPLE 8.00 %
• MICROSOFT 7.11 %
• NVIDIA 4.16 %
• MASTERCARD 3.41 %
• VISA A 3.31 %
┏━━━━━━━━━━━━━┓
💫FinVest แอปลงทุนแบบใหม่ ที่ได้รวบรวมกองทุนทั่วโลก มาให้คุณเลือกกองทุนที่เหมาะสม และตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ได้ง่าย ๆ
⭐️ลงทุนได้ทั้งไทยและเทศ แอปแรกในไทย ให้คุณลงทุนได้จาก 42 บลจ. ชั้นนำ
⭐️ใช้งานง่าย เริ่มต้นแค่มือถือเครื่องเดียว ทำได้ตั้งแต่เปิดบัญชียันซื้อขายง่ายแค่ปลายนิ้ว
⭐️เคียงข้างคุณ มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยอัปเดตสภาพตลาด รวมถึงชี้เป้าการลงทุน
🔗เริ่มลงทุน – แอป FinVest
🔗สอบถาม – Line
🔗ติดตาม – Instagram
🔗อ่านบทความ – Website
┗━━━━━━━━━━━━━┛
#FinVest #YourWingsYourWays #KSAM #BlackRock
