ลงทุนกองทุนหุ้นยุคใหม่ชั้นนำระดับโลก
ผ่าน 2 กองทุน ONE-UGG-RA และ ONE-DISC-RA
ปัจจุบันเป็นยุคที่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในหลากหลายมิติ ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้เกิดจากการขับเคลื่อนของความก้าวหน้าในการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยี ๆ และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจโลก ที่แต่ละประเทศล้วนเข้ามามีอิทธิพลกับเศรษฐกิจโลกมากยิ่งขึ้น โดยทุกการเปลี่ยนแปลงได้ส่งเสริมให้หุ้นหลายประเทศมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด จนสามารถกลายเป็นหุ้นชั้นนำในระดับประเทศหรือระดับโลกของแต่ละกลุ่มธุรกิจได้
ทำไมธุรกิจโลกชั้นนำถึงมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ?
ธุรกิจโลกชั้นนำต่างเข้ามามีบทบาทสำคัญผ่านชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะ Social Media ซึ่งเป็นสิ่งที่เราใช้อยู่ทุกวัน เช่น แอปพลิเคชัน Facebook หรือ Line เป็นต้น นอกจากนี้การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังช่วยเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนเราให้หันมาสั่งซื้อของออนไลน์มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้ส่วนตัวผ่านแอปพลิเคชัน อย่าง Lazada หรือ Grab เป็นต้นโดยแอปพลิเคชันเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ เราจึงมองว่าการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีดังกล่าว จะสามารถสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
ดังนั้น การเลือกหุ้นโลกชั้นนำที่มีอัตราการเติบโตสูงโดยไม่คำนึงว่าอยู่ในประเทศใด หรือภูมิภาคใดจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุน
นอกจากนี้ หุ้นโลกชั้นนำเหล่านี้ยังพยายามพัฒนา ผลิตสินค้า และการบริการใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องตามเทรนด์โลก เพื่อเป็นบริษัทชั้นนำของโลกต่อไปในอนาคต
กองทุน ONE-UGG-RA และ ONE-DISC-RA จึงเห็นโอกาสการลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูงและเปิดโอกาสรับผลตอบแทนจากการกระจายการลงทุนในหลายภูมิภาค และหลายธุรกิจชั้นนำทั่วโลก
ONE-UGG-RA กองทุนเปิด วรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ
ลงทุนหุ้นทั่วโลก ที่มีศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตสูง
เน้นลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่น (Exceptional Growth) และมีความสามารถในการแข่งขัน (Competitive Advantage) เหนือคู่แข่งในแต่ละอุตสาหกรรม
ลงทุนในกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund ซึ่งมีนโยบายกระจายการลงทุนในหุ้นทั่วโลก โดยไม่มีข้อจำกัดด้านภูมิภาค อุตสาหกรรม และมูลค่าตลาดของหุ้นที่ลงทุน โดยใช้กลยุทธ์วิเคราะห์หุ้นแบบ Bottom-up เพื่อค้นหาหุ้นที่มีโอกาสเติบโตโดดเด่นและสามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่นักลงทุน
กองทุน ONE-UGG-RA ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ถึง 52.54% และหุ้นตลาดเกิดใหม่ 32.27% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุนหลัก ๆ คือ กลุ่ม Consumer Cyclical 42.97% รองลงมา คือ กลุ่ม Communication Services 21.14% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มี.ค. 2564)
ตัวอย่างบริษัทที่ลงทุน
Amazon.com ผู้นำบริษัทเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขายสินค้าหลากหลาย และให้บริการขนส่งสินค้าไปทั่วทุกมุมโลก
Tencent Holdings บริษัทไอทียักษ์ใหญ่จีน ซึ่งทำธุรกิจมากมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีแอปพลิเคชันออนไลน์ เจ้าของแอป WeChat ชื่อดังและเจ้าของธุรกิจเกมออนไลน์
Alibaba Group Holding ผู้นำบริษัทด้าน E-Commerce การขายของออนไลน์ค้าปลีก อินเทอร์เน็ต AI และเทคโนโลยีข้ามชาติของจีน
ONE-DISC-RA กองทุนเปิด วรรณ ดิสคัฟเวอรี่ ชนิดผู้ลงทุนทั่วไป
เปิดโอกาสลงทุนผ่านบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว
เน้นลงทุนหุ้นเติบโตในระยะยาว โดยลงทุนในบริษัทที่มีขนาดกลางและขนาดเล็กมีศักยภาพในการเติบโตสูงเพียงพอ ที่จะก้าวไปเป็นบริษัทขนาดใหญ่ได้ในอนาคต
ลงทุนในกองทุนหลัก Baillie Gifford Worldwide Discovery Fund ซึ่งมีนโยบายการลงทุนโดยใช้กลยุทธ์วิเคราะห์หุ้นแบบ Bottom-up เพื่อค้นหาการลงทุนระยะยาวในบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กทั่วโลกที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างโดดเด่น (Emerging Competitive Advantage) โดยจะเลือกลงทุนในบริษัทที่อยู่ในช่วงก่อนเติบโตเต็มที่ (Immaturity) และถือครองหุ้นในระยะยาวเพื่อเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจนั้น ๆ
นอกจากนี้สัดส่วนการลงทุนของกองทุน ONE-DISC-RA ปัจจุบันลงทุนในสหรัฐฯ ถึง 67.38% รองลงมาเป็น UK 11.27% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลงทุนหลัก ๆ คือกลุ่ม Healthcare 30.72% รองลงมาคือกลุ่ม Technology 28.70% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มี.ค. 2564)
ตัวอย่างบริษัทที่ลงทุน
Tesla บริษัทผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ของ Elon Musk โดยมีผลงานชื่อดังอย่างรถยนต์ Tesla
Teladoc Health บริษัทผู้พัฒนาระบบเครือข่ายโทรศัพท์ที่เข้ามาช่วยเชื่อมโยงระหว่างคนไข้และบุคคลากรทางการแพทย์ ผ่านแอปปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ทั่วโลก
Ocado Group ผู้นำตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์สัญชาติอังกฤษรายใหญ่ที่สุดของโลก