TINA กำลังไป Bond รอบใหม่กำลังมา FinVest ชวนหาโอกาสลงทุน

TINA กำลังไป Bond รอบใหม่กำลังมา FinVest ชวนหาโอกาสลงทุน

🐣TINA กำลังไป Bond รอบใหม่กำลังมา FinVest ชวนหาโอกาสลงทุน

ถ้าจะให้สรุปภาพรวมการลงทุนในช่วงนี้ด้วยประโยคสั้น ๆ คงบอกได้ว่า “ปรากฏการณ์ TINA กำลังหายไป แต่ว่า Bond รอบใหม่กำลังมา” เกริ่นมาแบบนี้เชื่อว่าหลายคนคงจะสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่าปรากฏการณ์ TINA คืออะไร ใช่ปลาทูน่าหรือเปล่า?

วันนี้ FinVest จะพาทุกท่านไปรู้จักกับปรากฏการณ์ TINA ว่ามันคืออะไร แล้วทำไม Bond ถึงกำลังเป็นขาขึ้น

จุดเริ่มต้นของคำว่า “TINA” นั้นเริ่มมาจากคำพูดที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของสหราชอาณาจักรอย่าง Margaret Thatcher โดยย่อมาจากคำว่า “There Is No Alternative” หรือแปลเป็นไทยว่า “มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”

ซึ่งคำพูดดังกล่าวได้ถูกพูดออกมาเป็นครั้งแรกในการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจในปี 1980

จนในท้ายที่สุดคำว่า “There Is No Alternative” หรือ TINA ก็ถูกนำมาใช้ในโลกแห่งการเงินอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในยามที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มมองว่า ตอนนี้จำเป็นต้องลงทุนในหุ้นเพราะไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีกแล้วนั่นเอง (ช่วงที่ตราสารหนี้ให้ดอกเบี้ยต่ำแสนต่ำ)

แต่ทำไมปรากฏการณ์ TINA ถึงกำลังจะจบลง? ถึงแม้นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินหลายสำนักมองไปในทิศทางเดียวกันว่าตลาดหุ้นมีการปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้ว แต่ก็ยังตอบค่อนข้างยากว่าได้สิ้นสุดลงแล้ว และเมื่อหันมามองเทียบกับความเสี่ยง ยังมีสินทรัพย์ที่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่านั่นก็คือ Bond หรือตราสารหนี้นั่นเอง

ส่วนสาเหตุที่ Bond กำลังจะเป็นขาขึ้นส่วนหนึ่งมาจาก Cycle ของตลาดที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้มักจะปรับตัวขึ้นหลังจากการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์

โดยกลไกเบื้องหลัง ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ คือเมื่อสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้ต้นทุนของแทบทุกอย่างสูงขึ้นเป็นเงาตามตัวจนเกิดเงินเฟ้อที่ไม่ได้เกิดจากการโตของเศรษฐกิจขึ้น และการที่ธนาคารกลางจะหยุดเงินเฟ้อแบบนี้ได้ สิ่งที่ทำคือการขึ้นดอกเบี้ยนั่นเอง

สิ่งที่สะท้อนว่าปัญหาเรื่องเงินเฟ้อนั้นเกิดขึ้นจริงคงหนีไม่พ้นการที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ฯ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในแบบที่เรียกว่า “รัว ๆ” โดยในช่วงต้นปี อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ที่ระดับ 0.25-0.5% เท่านั้น แต่ปัจจุบันตัวเลขดังกล่าวได้ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในระดับ 3-3.25% และมีท่าทีว่าสิ้นปีนี้ตัวเลข 4% อาจจะมีให้เห็นก็เป็นได้

มาถึงตรงนี้คงพอจะเดาออกแล้วใช่ไหมครับว่าคราวนี้กองทุนที่เราจะแนะนำคงหนีไม่พ้นกองทุนตราสารหนี้แน่ ๆ เลย ซึ่งก็คงต้องบอกว่าเดาถูกแล้วละครับ แต่ว่าจะมีกองอะไรบ้างนั้น มาดูกันต่อได้เลยครับ

🍡UGIS-N, PIMCO GIS Income Fund E Class USD Accumulation

กองทุน UGIS-N ก็เป็นกองทุนที่ไปลงทุนใน PIMCO GIS Income ซึ่งถ้าจะให้ร่ายความเก่งของกองทุนนี้คงต้องไปอ่านในบทความนี้แล้วล่ะครับ แนะนำถือราว 3 ปีขึ้นไป

🍡SCBFST

อีกกองทุนที่เราจะแนะนำคราวนี้เป็นคิวของ SCBFST ซึ่งต้องขอบอกว่ากองทุนนี้เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น โดยลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ อายุ 1-3 เดือน เป็นหลัก และอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่กองนี้ถือจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือน 26 วัน (31 สิงหาคม 2565) ซึ่งการถือตราสารหนี้ระยะสั้นมีข้อดีตรงที่ยืดหยุ่นเมื่ออยู่ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แนะนำถือราว 3 เดือนขึ้นไป กองทุนนี้อาจได้รับผลกำไรหรือขาดทุนจากค่าเงิน

🌟ทุกกองทุนลงทุนผ่านแอป FinVest ได้แล้ววันนี้🌟

สามารถลงทุนได้ที่ แอป FinVest www.finvest.co.th/AWO092208004

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Line https://lin.ee/3wINMDBsz

Follow us on Website : www.finvest.co.th

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต*

*การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน*

*ระยะเวลาการจัดสรรหน่วยลงทุนขึ้นอยู่กับแต่ละ บลจ.*

#FinVest #YourWingsYourWays

Related Posts