หากย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว หลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปของรถยนต์ จากข้อมูลของนักวิจัย มีการคาดการณ์ว่ารถยนต์โดยสารแบบปกติทั่วไปเพียง 1 คัน จะปล่อย Carbon Dioxide ถึงปีละประมาณ 4.6 ตัน มากไปกว่านั้น ปริมาณ Carbon Dioxide ในชั้นบรรยากาศยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยความที่ปัญหาภาวะโลกร้อนนั้นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้หลายๆ บริษัททำการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการใช้เครื่องยนต์แบบเดิมๆ ที่อาศัยน้ำมัน ผลักดันให้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดในรถยนต์นั้นพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
แต่จะให้พัฒนาแค่ในด้านพลังงาน สำหรับนักนวัตกรรมแล้ว มันไม่พอ ว่าแล้วหลายๆ บริษัทจึงมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์สมัยใหม่ให้ดียิ่งขึ้นไป
เพื่อให้เห็นภาพการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ วันนี้ทีม FinVest จึงเลือกกองทุนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต นั่นคือกองทุน RobecoSAM Smart Mobility มาแชร์ให้ฟังกัน
RobecoSAM Smart Mobility ลงทุนครบวงจรในอุตสาหกรรมยานพาหนะแห่งโลกอนาคต
ห่วงโซ่การผลิตรถยนต์แห่งโลกอนาคตนั้น ประกอบไปด้วย 4 หมวดอุตสาหกรรมหลักๆ ได้แก่
- อุตสาหกรรม Semiconductor ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์
- อุตสาหกรรมที่เน้นพัฒนาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น สายชาร์จแบตเตอรี่รถ
- อุตสาหกรรมผลิตรถและพัฒนา Platform ในตัวรถ
- อุตสาหกรรมแบตเตอรี่
ซึ่งกองทุน RobeccoSAM Smart Mobility ได้ทำการกระจายลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล่านี้อย่างครอบคลุม โดยกองทุนมองเห็นว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็น Mega Trend ในโลกอนาคต จึงพลาดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมขบวนของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีนี้
โอกาสในการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ในระดับสูง
มีคาดการณ์ว่า ปัจจุบันโลกเรามีรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงอยู่ประมาณ 1 พันล้านคัน ในขณะที่รถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดนั้น คาดการณ์ว่าในสิ้นปี 2021 จะมีปริมาณทั้งโลกรวมกันแค่ 6 ล้านคันเท่านั้น คิดเป็น 0.6% ของรถที่ใช้เชื้อเพลิง จะเห็นได้ว่า ถ้าการเปลี่ยนผ่านระหว่างรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดนั้นทำได้สำเร็จ นั่นหมายถึงโอกาสมหาศาลในการลงทุน
มากกว่าคำว่ารถยนต์พลังงานสะอาด คือ รถยนต์พลังงานสะอาดที่อัจฉริยะจนไร้คนขับ
ในปัจจุบันนอกจากการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแล้วนั้น ยังมีการเพิ่มสมรรถนะของรถยนต์ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ซึ่งเทคโนโลยีที่หลายๆ บริษัทกำลังขับเคี่ยวกันพัฒนาอยู่นั่นคือ รถยนต์อัจฉริยะที่ไร้คนขับ ซึ่งหากรถยนต์ที่ไร้คนขับนั้นสามารถทำได้จริง จะแก้ปัญหาอุบัติเหตุซึ่งอาจเกิดจากความประมาทของคนขับได้ แต่ระบบทั้งหมดตั้งแต่รถไฟฟ้าไปจนถึงรถยนต์อัจฉริยะจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดอุปกรณ์ชิ้นเล็กจิ๋วแต่แสนสำคัญ ซึ่งเรียกว่า “Semiconductor”
Semiconductor หัวใจสำคัญในการผลิต Smart Mobility
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นต้องการ semiconductor ในการประมวลผล ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ Top Holdings ของกองทุนนี้ 3 ใน 10 เป็นการลงทุนในบริษัทที่เน้นเกี่ยวกับ semiconductor ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจะยกตัวอย่างหุ้นในกลุ่มนี้กัน
– Analog Devices Inc: บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1965 ปัจจุบันบริษัทนี้มีโครงการที่กำลังพัฒนาระบบเกี่ยวกับรถยนต์ EV เช่น การทำ Battery Management System หรือการวิจัยเกี่ยวกับ Autonomous Car โดยทาง Analog ประกาศว่าได้ทำการเข้าซื้อกิจการอย่าง Maxim Integrated บริษัทที่พัฒนาเกี่ยวกับ Battery Management ในช่วงปลายเดือนสิงหาที่ผ่านมาอีกด้วย
– ON Semiconductor Corp หรือ onsemi: บริษัทนี้ปัจจุบันกำลังวิจัยระบบส่งกำลัง (Power Train) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ เพราะหน้าที่ของระบบส่งกำลังคือการส่งกำลังจากแบตเตอรี่ไปสู่มอเตอร์ของรถยนต์ ปัจจุบัน onsemi กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า Wolfspeed Silicon Carbide ซึ่งบริษัทคาดว่า หากทำสำเร็จจะสามารถลดอัตราการสูญเสียจากแบตเตอรี่ได้ถึง 80%
– NXP Semiconductors NV: ปัจจุบัน NXP กำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า Advanced Driver Assistance Systems หรือเรียกสั้นๆว่า ADAS ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวมีหน้าที่ช่วยคนขับประมวลผลจากสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวรถ ตัวอย่างเช่น เรดาห์ที่ไว้ตรวจจับรถยนต์ใกล้ๆ หรือระบบกล้องรอบตัวรถยนต์ เป็นต้น
นอกจาก Semiconductor แล้ว RobecoSAM Smart Mobility ยังลงทุนในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่น
– อุตสาหกรรมแบตเตอรี่: ลงทุนใน SAMSUNG ผู้นำการผลิตแบตเตอรี่แห่งเกาหลีใต้ และ Albemarle Corp บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเหมืองลิเทียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในแบตเตอรี่ Li-Ion
– อุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า: ลงทุนใน Schneider Electric และ ABB ที่พัฒนาแท่นชาร์จสำหรับ EV และ ระบบจ่ายไฟ (Electrical Grid)
– อุตสาหกรรม Platform และอุตสาหกรรมผลิตรถ: ลงทุนใน XPeng บริษัทผลิตรถ EV จากจีน และ Aptiv หนึ่งในผู้พัฒนา Platform รถยนต์ไร้คนขับ
ผลการดำเนินงานของกองทุน
มาดูในส่วนของผลการดำเนินงานกันบ้าง สำหรับกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities Share Class USD อ้างอิงข้อมูลวันที่ 10 กันยายน 2564 จากเว็บไซต์ Morningstar ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 23.20% ต่อปี ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 48.89% และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 8.98%
สำหรับค่า Max Drawdown หรือตัวเลขการขาดทุนสูงสุด กองทุนนี้เคยย่อตัวลงไปมากสุดอยู่ที่ประมาณ 28% ในช่วงเดือนมีนาคม 2563 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด ส่วน Max Drawdown อันดับรองลงมาเกิดขึ้นในช่วงปี 2018 ซึ่งเป็นอีกปีหนึ่งที่มีความผันผวนเกิดขึ้นสูง กองทุนย่อตัวต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 21% จากจุดสูงสุด
จากตัวเลขดังกล่าว กองทุน RobecoSAM Smart Mobility ถือว่าอยู่ในระดับเสี่ยงสูง เพราะเวลาที่บวกก็บวกเยอะ เวลาที่ลบก็ลบเยอะเช่นกัน เนื่องจากนโยบายการลงทุนที่กระจายการลงทุนอยู่ในหุ้นเพียงแค่ประมาณ 50 ตัว จึงทำให้มีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลกองทุนให้ดีและประเมินระดับการรับความเสี่ยงของตนเองก่อนตัดสินใจลงทุน
สรุปจุดเด่นของกองทุน RobecoSAM Smart Mobility
– เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งโลกอนาคตแบบครบวงจร
– ไม่ได้ลงทุนเพียงแค่บริษัทที่เกี่ยวกับ EV แต่ลงทุนในบริษัทที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับด้วย
– เทรนด์ Smart Mobility เป็นเทรนด์ที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก เหมาะกับการสะสมลงทุนระยะยาว
สนใจลงทุนในกองทุนนี้
FinVest เปิดให้นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในต่างประเทศสามารถซื้อกองทุนต่างประเทศได้โดยตรงแล้ว รวมถึงกองทุน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth ที่พูดถึงในบทความนี้ ติดตามข้อมูลโปรโมชั่นได้ที่ https://www.finvest.co.th/promotion/
อ้างอิง
https://www.samsung.com/semiconductor/solutions/applications/automotive/
https://www.analog.com/en/applications/markets/automotive-pavilion-home.html
https://www.aptiv.com/ces2020/aptiv’s-next-generation-autonomous-driving-system-384000861
https://www.robeco.com/doca/CGF_ECARU_I-fact-202108-profgloben.pdf
https://www.robeco.com/doca/CGF_ECARU_I-twop-202107-profgloben.pdf
https://www.robeco.com/doca/cgf_ecaru_i-kiid-202102-profgloben.pdf
https://www.epa.gov/greenvehicles/greenhouse-gas-emissions-typical-passenger-vehicle#burning
https://www.washingtonpost.com/weather/2020/06/04/carbon-dioxide-record-2020/
