วางแผนการเงิน ต้อง SMART ที่ FinVest

วางแผนการเงิน ต้อง SMART ที่ FinVest


SMART เป็นหลักการในการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ บรรลุได้ เป็นจริง และมีขอบเขตเวลากำหนด ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การวางแผนการเงิน ที่ดี ตามหลัก SMART หมายถึงอะไร FinVest จะอธิบายให้ฟัง


การวางแผนการเงิน ที่ดี ตามหลัก SMART
S = Specific เป้าหมายต้องมีความชัดเจน
M =  Measurable สามารถระบุจำนวนเงินได้
A = Achievable ทำสำเร็จได้
R = Realistic สามารถเป็นจริงได้
T = Time Bound มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน


S-M-A-R-T


S = Specific เป้าหมายต้องมีความชัดเจน

ต้องถูกกำหนดไว้อย่างเฉพาะเจาะจง ไม่คลุมเครือ เช่น อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากเก็บเงินไปเที่ยว หรือ อยากเก็บเงินเพื่อเป็นทุนการศึกษาบุตร เป็นต้น


M =  Measurable สามารถระบุจำนวนเงินได้

ต้องระบุเป้าหมายเป็นตัวเลขหรือตัวเงินได้อย่างชัดเจน ว่าต้องการเงินจำนวนเท่าไร เช่น อยากซื้อบ้านราคา 10 ล้านบาท หรือ จะเก็บเงิน 3 แสนบาท ไปเที่ยวอเมริกา เป็นต้น


A = Achievable ทำสำเร็จได้

ต้องสามารถระบุวิธีการที่จะทำให้สำเร็จได้ เช่น คาดหวังผลตอบแทนประมาณ 10% ต่อปี จึงเลือก ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นในตลาดที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ปีละ 10% 


R = Realistic สามารถเป็นจริงได้

กำหนดเป้าหมายให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง มีความเป็นไปได้ สมเหตุสมผล สอดคล้องกับสถานะทางการเงินและข้อจำกัดต่าง ๆ ทั้งในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ปัจจุบันได้รับเงินเดือนอยู่ที่ 60,000 บาทต่อเดือน แต่อยากเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาท ภายใน 1 ปี ทั้งที่ปัจจุบันมีรายได้เพียงปีละ 7.2 แสนบาทเท่านั้น จึงต้องหารายได้เพิ่มด้วยการทำงานเพิ่ม จนเวลาพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพ จนไม่สามารถทำงานหาเงินเพื่อบรรลุเป้าหมายได้ ในกรณีจึงไม่สามารถเป็นจริงได้


T = Time Bound มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน

มีการกำหนดเป้าหมายที่มีกรอบเวลาที่ระบุแน่ชัดว่า จะเริ่มเมื่อไรและต้องใช้เวลานานแค่ไหน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อไม่ให้เป้าหมายการเงินที่ต้องการลอยเลื่อนออกไปอย่างไม่มีวันบรรลุ 


โดยทั่วไปมักมีการกำหนดระยะเวลาเป็น เป้าหมายระยะสั้น กลาง และยาว เช่น


เป้าหมายระยะสั้น (น้อยกว่า 3 ปี)  เช่น จะเก็บเงิน 3 แสนบาท ไปเที่ยวอเมริกาในปีหน้า ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง และมีสภาพคล่องสูง เช่น กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้


เป้าหมายระยะกลาง (3-7 ปี) เช่น ต้องการเก็บเงินเพื่อดาวน์บ้าน 1 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า ควรลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงปานกลาง อย่างเช่น กองทุนรวมผสม และเพื่อวินัยในการเก็บเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้จริง ควรมีตัวช่วยการลงทุน ด้วย วิธีเฉลี่ยต้นทุน หรือ Dollar Cost Averaging (DCA) จาก Feature DCA บนแอปพลิเคชัน FinVest สามารถตั้งหักบัญชีลงทุนอัตโนมัติ ไม่ต้องกลัวว่าเดือนไหนจะลืมลงทุน


เป้าหมายระยะยาว (มากกว่า 7 ปี) เช่น ต้องการเก็บเงินเพื่อความพร้อมในการเกษียณอายุ มีระยะเวลาในการลงทุนได้นาน ควรเลือกลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง และได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เน้นกองทุนรวมหุ้น โดยลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีเฉลี่ยต้นทุน หรือ Dollar Cost Averaging (DCA) ที่ FinVest เพื่อให้พลังของผลตอบแทนทบต้นทำงานได้เต็มประสิทธิภาพจากการลงทุนระยะยาว


ขั้นตอน การวางแผนการเงิน ตามหลัก SMART

  1. วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเงินปัจจุบัน: เช็คยอดเงินออม หนี้สิน รายรับ รายจ่าย
  2. กำหนดเป้าหมายทางการเงิน: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ บรรลุได้ เกี่ยวข้อง และมีขอบเขตเวลา
  3. วางแผนการออม: กำหนดจำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือน และช่องทางการออม
  4. วางแผนการลงทุน: เลือกช่องทางการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และระยะเวลาในการลงทุน
  5. ติดตามและประเมินผล: ตรวจสอบความคืบหน้าของเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ และปรับแผนตามสถานการณ์เมื่อจำเป็น


เคล็ดลับในการ วางแผนการเงิน ให้สำเร็จ

  1. เริ่มต้นจากเป้าหมายเล็ก ๆ : เริ่มต้นจากเป้าหมายที่ง่ายและบรรลุได้ก่อน แล้วค่อยขยับไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น
  2. สร้างวินัยในการออม: กำหนดวันและจำนวนเงินที่แน่นอนสำหรับการออม
  3. หลีกเลี่ยงหนี้สิน: พยายามลดหนี้สินให้เหลือน้อยที่สุด
  4. ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเงิน: อ่านหนังสือ ฟัง podcast หรืออ่านบทความการเงินดี ๆ จาก FinVest
  5. ใช้แอปพลิเคชันการลงทุนช่วย: Feature DCA บนแอป FinVest ใช้งานง่าย สร้างวินัยในการลงทุน ช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้ในระยะยาว




ตัวอย่างการวางแผนการเงิน ตามหลัก SMART

นาย FinVest ทำงานได้เงินเดือนละ 60,000 บาท ต้องการจะเก็บเงิน 3 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 10 ปี เพื่อเริ่มธุรกิจ โดยจะลงทุนในกองทุนรวมเดือนละ 15,500 บาท


S = เก็บเงินเพื่อเป็นเงินทุนในการเริ่มธุรกิจ

M = 3 ล้านบาท

A = ลงทุนในกองทุนรวม SCBS&P500A ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยประมาณปีละ 10%

R = ลงทุนเดือนละ 15,500 บาท (25.83% ของเงินเดือน)

T = 10 ปี


เงินลงทุน 15,500 บาท คิดเป็น 25.83% ของเงินเดือน ไม่มากไม่น้อยเกินไปที่จะสามารถลงทุนได้ในระยะยาว และหากลงทุนทุกเดือนในกองทุน SCBS&P500A ด้วยผลตอบแทนคาดหวัง 10% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 10 ปี เงินลงทุนสะสมจะเท่ากับ 3,097,889.78 บาท ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่ได้วางแผนการเงินเอาไว้


ลงทุนก่อน รวยกว่า เริ่ม DCA ที่ FinVest ได้แล้วตั้งแต่วันนี้




*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


#FinVest #YourWingsYourWays

Related Posts