น้ำมันรถยนต์ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบ และน้ำมันดิบเกิดจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ในอดีตที่สะสมมาเป็นเวลาหลายล้านปี ถ้าดูจากปริมาณการใช้น้ำมันในทุกวันนี้ รับรองว่าซักวันนึงน้ำมันจะไม่มีเหลือพอให้เราใช้แน่นอน
ถ้าไม่หาวิธีปรับปรุงการกลั่นน้ำมันดิบให้ได้ผลผลิตมากขึ้น มนุษย์ก็ต้องหาวิธีนำพลังงานแบบอื่นมาใช้ทดแทน และเหมือนว่าความกังวลนี้จะไม่อยู่กับเรานาน เพราะช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราเริ่มมีรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% พัฒนาออกมาให้ใช้กันจริงๆ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนอกจากจะประหยัดในการเติมน้ำมันแล้ว ยังไม่สร้างมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงด้วย
ถือว่าเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังเติบโตแบบสดๆ ร้อนๆ จากสถิติ ตั้งแต่ปี 2016-2020 ยอดขายในยุโรปถือว่าเติบโตเร็วที่สุดคิดเป็นการเติบโต 60% ต่อปี เทียบกับในจีนอยู่ที่ 36% และในสหรัฐฯอยู่ที่ 17% บทความนี้เลยไม่พลาดที่จะมารีวิวกองทุนที่ลงทุนในเทรนด์นี้กัน ซึ่งกองทุนที่ทีมงานได้ทำการวิเคราะห์และคัดสรรมาแล้วก็คือ กองทุนยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี หรือ UEV นั่นเอง
UEV กองนี้ครบ ตั้งแต่ขุดยันขาย
กองทุน UEV เป็นกองทุนจากค่าย UOB มีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรถยนต์ EV (Electric Vehicle) ครอบคลุมตั้งแต่บริษัทที่ขุดเหมืองเพื่อหาวัสดุทำแบตเตอรี่ บริษัทผลิตแบตเตอรี่ และสุดท้ายคือบริษัทที่พัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า พูดได้ว่าถ้านักลงทุนสนใจในเมกะเทรนด์ EV ลงทุนกองนี้กองเดียวจะได้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมาอยู่ในพอร์ตแบบครบวงจรเลย
โดยไส้ในกองทุน จะแบ่งลงทุนในกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities จำนวน 69.33% และแบ่งลงทุนใน Global X Lithium & Battery Tech ETF อีก 29.18% สำหรับผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุน UEV เนื่องจากกองทุนเพิ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2564 เลยมีเฉพาะผลตอบแทนตั้งแต่ก่อตั้งกอง (Since Inception: SI) อยู่ที่ 14.66% ผลการดำเนินงานในอดีตจึงต้องดูในกองแม่ประกอบอีกทีหนึ่ง
รายละเอียดกองทุน RobecoSAM Smart Mobility Equities
แนวคิดของกองนี้คือการลงทุนในบริษัทที่จะได้ประโยชน์จากการเกิดใหม่ของเทรนด์รถยนต์ EV ที่ผ่านมากองทุนก็ทำผลงานได้ค่อนข้างดี ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 27.18% ต่อปีด้วยกัน แต่ผลตอบแทนก็ยังถือว่าแพ้ดัชนีที่ใช้เปรียบเทียบอย่าง S&P Global Clean Energy อยู่
ตัวอย่างหุ้นที่กองนี้ถือเป็นสัดส่วนใหญ่ เช่น Maxim Integrated ผู้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ Samsung SDI บริษัทลูกในเครือซัมซุงที่ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า Albemarle หนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในการจัดหาลิเทียมเพื่อใช้เป็นวัสดุในการทำแบตเตอรี่ และ Xpeng บริษัทพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าในจีน
รายละเอียด Global X Lithium & Battery Tech ETF
ETF ต่างจากกองทุนปกติตรงที่ ETF จะลงทุนตามดัชนี โดย Global X Lithium & Battery Tech ETF ลงทุนล้อไปกับ Solactive Global Lithium Index ดัชนีนี้จะเน้นบริษัทที่เกี่ยวกับลิเทียมเป็นหลัก ตั้งแต่ขุดเหมือง สังเคราะห์ และพัฒนาแบตเตอรี่ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 32.73% ต่อปี (ข้อมูลวันที่ 30 มิ.ย. 2564) ผลตอบแทนถือว่าน่าดึงดูดทีเดียว
ตัวอย่างหุ้นอยู่ในดัชนีนี้ เช่น Albemarle บริษัทเหมืองลิเทียม ถือเป็นสัดส่วนสูงสุด ตามมาด้วยบริษัทผู้พัฒนาแบตเตอรี่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในจีนอีกหลายบริษัท ทั้ง Ganfeng Lithium, Yunnan Energy, Naura Tech, Contemporary Amperex กองทุนนี้ถือ Tesla อยู่ด้วย แต่ถืออยู่เพียง 3.28% เท่านั้น อาจด้วยเพราะมีคู่แข่งเกิดขึ้นเยอะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของ Tesla ลดต่ำลง
ยิ่งแข่งขัน ยิ่งเติบโต
ปัจจุบันมีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะได้ยินแต่ชื่อ Tesla เพียงบริษัทเดียว ข้อดีคือการแข่งขันรวมถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตหลายๆ อย่างต่ำลง ทำให้คนทั่วไปก็สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้ จุดนี้เป็นจุดที่จะสนับสนุนการเติบโตของเทรนด์ EV ได้เป็นอย่างดี ถ้ารถยนต์ไฟฟ้ามีราคาเท่ากับรถยนต์ทั่วไป แต่ไม่ต้องเสียค่าน้ำมันแพงๆ แถมไม่ปล่อยมลพิษ ก็น่าคิดว่าเมื่อถึงเวลานั้นจะยังมีใครสนใจรถยนต์ทั่วไปอยู่หรือไม่
สรุปจุดเด่นน่าลงทุนของกองทุน UEV
- ลงทุนกองเดียวเหมือนได้ลงทุนทั้งอุตสาหกรรมของรถยนต์ EV
- ช่วงปีที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ EV มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ
- เทรนด์ EV เป็นเทรนด์เกิดใหม่ ยังเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้มีพื้นที่การเติบโตในระยะยาวอีกมาก
- ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกอง Master Fund ที่ไปลงทุนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
อ้างอิง
https://www.iea.org/reports/global-ev-outlook-2021
https://www.uobam.co.th/th/mutual-fund/00714/UEV
https://www.robeco.com/en/funds/prof-glob-en-11/robecosam-smart-mobility-equities-i-usd-lu2145466475.html
