ถ้าซื้อกอง SSF และ RMF แบบเต็มสูบ ประหยัดภาษีไปได้กี่บาท
สรุปสิ่งที่น่าสนใจ
- ยิ่งรายได้มาก ยิ่งประหยัดภาษีเป็นจำนวนเงินได้มาก
- ปี 65 มนุษย์เงินเดือนมีรายได้ไม่เกิน 26,583 บาท ไม่ต้องเสียภาษี แต่ไม่ได้แปลว่าไม่ต้องยื่นภาษีนะ
- SSF และ RMF ช่วยลดหย่อนได้จริง แต่ก็ไม่ควรออมเงินเกินตัวจนเดือดร้อน แบ่งเงินไปใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ที่เหมาะสมด้วย
สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว ต้องยอมรับว่าเรื่องของการลดหย่อนภาษีนั้นมีความซับซ้อนอยู่ เพราะมันคือการนำเอาสองเรื่องที่เข้าใจยาก อย่างสิทธิลดหย่อนบวกด้วยเรื่องของตัวเลข มาผสมเข้าด้วยกัน แต่ FinVest ขอบอกว่าไม่ได้ยากเลย แค่การคิดภาษีนั้นจะใช้ “เงินได้สุทธิ” สามารถสรุปด้วยสมการง่าย ๆ คือ
เงินได้ทั้งปี – ค่าใช้จ่าย – เงินลดหย่อน = เงินได้สุทธิ
สำหรับค่าใช้จ่ายและเงินลดหย่อนส่วนตัว ทางรัฐกำหนดมาให้แล้วไม่เกิน 100,000 บาท และ 60,000 ตามลำดับ ดังนั้นถ้าดูจากสมการ จะเห็นว่าถ้าเรามีสิทธิลดหย่อนมาก เงินได้สุทธิก็จะน้อยลงตามไปด้วย และยิ่งเงินได้สุทธิน้อยลงเท่าไร ก็จะทำให้ภาษีที่ต้องเสียลดลงเท่านั้น ตามการคิดเป็นแบบขั้นบันไดอีกด้วย
และกองทุน SSF และ RMF นับว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเพิ่มเงินลดหย่อนตรงนี้ ยังไม่พอกองทุนเหล่านี้ยังมีข้อดีในเรื่องของผลตอบแทนจากการลงทุนที่ทำให้เงินต้นงอกเงยอีกด้วย แต่ด้วยข้อจำกัดจุกจิกมากมาย ทำให้หลายคนไม่เห็นภาพว่าการซื้อกองทุนเหล่านี้มีประโยชน์มากขนาดไหน
มาวันนี้เราขอคำนวณให้เลย ทำให้เห็นกันแบบจะ ๆ เลยว่า ถ้าสมมติว่าเราซื้อกองทุน SSF และ RMF แบบเต็มสูบแล้ว จะช่วยประหยัดภาษีได้เท่าไร (โดยที่สมมติฐานคือ สถานะโสด มีรายได้จัดเป็นประเภท 40(1) สามารถหักค่าใช้จ่าย ค่าลดหย่อนไม่ว่าจะเป็น เงินเดือน โบนัส เงินส่วนตัว และประกันสังคมเท่านั้น)
.
ถ้าสนใจซื้อ SSF และ RMF ตอนนี้เรามีโปรฟินเว่อร์กับ FinVest พร้อมแจกโพยกองทุนที่ https://finve.st/4a7dl
สามารถลงทุนได้ที่ แอป FinVest
https://www.finvest.co.th/AWO092208004
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Line https://lin.ee/3wINMDBsz
Follow us on Website : www.finvest.co.th
