มองการณ์ไกล ลงทุนในหุ้นคุณภาพราคาเหมาะสม กับ BGF Global Long-Horizon Equity Fund

มองการณ์ไกล ลงทุนในหุ้นคุณภาพราคาเหมาะสม กับ BGF Global Long-Horizon Equity Fund

การลงทุนในหุ้นคุณค่า ราคาเหมาะสม เป็นกลยุทธ์ที่พิสูจน์ตัวเองมาอย่างยาวนานแล้วว่าได้ผล

และทาง Blackrock เองก็ได้มีกลยุทธ์การลงทุนแนวนี้เตรียมพร้อมให้นักลงทุนอย่างเราๆ

ลงทุนได้ง่ายๆ อีกเช่นเคย ผ่านกองทุน BGF Global Long-Horizon Equity Fund

.

┏━━━━━━━━━━━━━┓

🍭 โปรโมชัน FinVest DCA Cashback รับเงินคืน สูงสุด 0.2%* 👆

🍭 DCA ที่ FinVest เจ๋งอย่างไร? พร้อมขั้นตอน DCA 👆

🍭 กองทุนเต็มไปหมด ทีนี้ก็ว้าวุ่น ให้เราช่วยคุณ กับโพยลงทุน จาก FinVest 👆

🍭 มัดรวมโปรโมชันกองทุนส่งตรงจากบลจ. ครบ จบ ที่เดียว 👆

┗━━━━━━━━━━━━━┛

.

มองการณ์ไกล ลงทุนในหุ้นคุณภาพราคาเหมาะสม กับ BGF Global Long-Horizon Equity Fund

.

  • BGF Global Long-Horizon Equity Fund ลงทุนในหุ้นคุณภาพแบบกระจุก 20-30 ตัว ผ่านการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอย่างเข้มข้น
  • เป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีชี้วัด
  • เหมาะกับนักลงทุนทุนที่สามารถรับความเสี่ยง ถือลงทุนได้ 3-5 ปี

.

.

ปรัชญาการลงทุนของกองทุน BGF Global Long-Horizon Equity นั้นถ้าให้สรุปสั้นๆ มันคือการเจาะลึกในพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัว เพื่อเป้าหมายสามข้อ ได้แก่

  1. ตามหาเฉพาะธุรกิจที่มีคุณภาพเท่านั้น
  2. เป็นธุรกิจที่มีกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้ ยั่งยืน และที่สำคัญ เติบโต
  3. ลงทุนโดยผ่านการประเมินมูลค่าที่เข้มงวด

.

ไอเดียตั้งต้นของกองทุนคือการมองหาธุรกิจที่มีคุณภาพทั่วทั้งตลาด โดยกระบวนการตามหา “หุ้นคุณภาพ” เป็นดังนี้

  • อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROIC) สูง
  • ใช้ต้นทุนในการเติบโตต่ำ
  • มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง
  • การบริหารงานมีความยืดหยุ่น
  • มีการ Reinvest 
  • มีอุปสรรคในการเข้ามาในตลาดของคู่แข่ง
  • มีนโยบาย ESG ที่เหมาะสม

.

กระบวนการ Valuation แบบองค์รวม สามารถช่วยให้กองทุนทำผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นคุณภาพได้ดียิ่งขึ้น

โดยจากภาพด้านล่าง จะพบว่าถ้าเราลงทุนรวมๆ ในหุ้นคุณภาพ ผลตอบแทนแบบ Annualized จะได้กราฟแท่งสีส้มที่ผลตอบแทน 7.5%

กลับกัน หากเราคัดเลือกหุ้นผ่าน Valuation ที่ดีที่สุด 20% แรก ด้วย จะพบว่า หุ้นกลุ่มคุณภาพ สามารถทำผลตอบแทนตามกราฟแท่งสีเขียวได้ 15.4% หรือเป็นราวๆ 2 เท่าตัว ของการลงทุนในหุ้นคุณภาพเฉยๆ

.

กองทุน BGF Global Long-Horizon Equity จัดตั้งมาตั้งแต่ปี 1996 หรือเกือบ 27 ปี และหลักการนี้ผ่านการพิสูจน์มาอย่างยาวนานแล้วว่าใช้ได้ผล

โดยผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นแบบ 10Y อยู่ที่ 6.54% ต่อปี และตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 7.69% ต่อปี ข้อมูล ณ 31 ตุลาคม 2023

หลังจากที่เราพูดถึงว่าทำไมกองทุนต้องมองหาหุ้นคุณภาพแล้ว มาดูในส่วนถัดไปคือเรื่องของกระบวนการลงทุนกันต่อ

.

กลยุทธ์ Global Long-Horizon ได้วางกระบวนการลงทุนไว้เป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่

1. การนิยามสิ่งที่เรียกว่า “คุณภาพ”

  • ตั้งสมมติฐาน
  • การระบุธีมการลงทุนที่ทีมงานได้เปรียบ
  • ระบุและประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้าน ESG 
  • ดูว่าทำไมบริษัทถึงเหมาะสมที่จะเข้าลงทุน

2. การหาหลักฐานยืนยัน

  • พิสูจน์สมมติฐานว่าถูกต้อง
  • วิเคราะห์ Cash flow ในอนาคต
  • พบปะผู้บริหารเพื่อข้อมูลเพิ่มเติม
  • สำรวจปัจจัยด้าน ESG
  • ติดตามข่าวสารและข้อมูลการลงทุน

3. การหาบริษัทที่มีคุณค่าในราคาน่าดึงดูด

  • ประเมินหาราคาที่เหมาะสม โดยเน้นไปที่การใช้กระแสเงินสดในการประเมินมูลค่าเป็นหลัก
  • ติดตามและอัปเดตราคาเหมาะสมอยู่เสมอ

.

กองทุนมองว่าในการลงทุน หุ้นคุณภาพ บริษัทที่น่าสนใจนั้นมีอยู่ 3 Stages ด้วยกัน

  • High Growth Stage ผู้นำในอุตสาหกรรมเกิดใหม่ ที่มีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยยะ
  • Mature Growth Stage ผู้นำยุคปัจจุบันที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง มีคูเมือง และความสามารถในการแข่งขัน
  • Improvement Stage อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเลือกทางว่าจะรอดหรือร่วง โดยที่หุ้นในอุตสาหกรรมเหล่านี้กำลังอยู่ในช่วงปรับผังองค์กรให้เดินหน้าต่อไปได้ 

แบบไหนที่ไม่เอา

บริษัทที่เป็น Early Stage กำลังก่อตัวขึ้นหรือยังมีความไม่ชัดเจนอยู่สูง แบบนี้ทางกองทุนจะไม่ลงทุน

.

  • ลงทุนแบบ High Conviction มีหุ้น 20-30 หลักทรัพย์ ที่มองว่าเป็นไอเดียดีที่สุด โดยไม่จำกัดโดยขนาดหรือภูมิภาค
  • โฟกัสการลงทุนแบบระยะยาว เป้าหมายคือถือ 3-5 ปี
  • โฟกัสไปที่ปัจจัยพื้นฐาน  โดยวิเคราะห์เจาะลึกงบการเงินเป็นเกณฑ์ในการเลือกหุ้น
  • เน้นไปที่การสร้าง Alpha หรือผลตอบแทนเหนือตลาดในระยะยาว

.

1. ด้านความเสี่ยง

  • Liquidity – ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
  • Existing exposures – ความเสี่ยงจากการสถานะที่มีอยู่แล้ว
  • Range of outcomes – ผลลัพธ์รูปแบบต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้น
  • RQA factors – ปัจจัยด้านความเสี่ยงและด้านปริมาณ

2. การประเมินความมั่นใจ

  • ติดตามผลการดำเนินงานด้านปัจจัยพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง
  • ประเมินความแข็งแกร่งของไอเดียว่ายังแข็งแกร่งอยู่หรือไม่

3. การประเมินมูลค่า

  • ติดตามมูลค่าเชิงสัมพัทธ์และมูลค่าเชิงสัมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง

.

ถ้าหากให้สรุปเรื่องเหตุผลที่ว่าทำไมต้องใช้ ESG คร่าวๆ ว่าถ้าเรารวมการมองในมิติ ESG เข้าไปในความเสี่ยงจะช่วยให้

  • ตระหนักรู้ถึงปัญหาของบริษัทที่เราลงทุนอยู่
  • อธิบายได้ว่าทำไมเราถึงต้องถือสถานะนี้ แม้ว่าจะมีความเสี่ยง
  • หากบริษัทไม่สามารถอธิบายปัญหาได้อย่างเหมาะสม หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก็ไม่มีเหตุผลให้เราลงทุนบริษัทนี้

.


โดยบริษัทที่ทางกองทุนถือมากที่สุดตอนนี้ ได้แก่

  1. Microsoft Corporation – บริษัทที่เป็นเจ้าของซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ Windows ที่เราคุ้นเคยกันดี โปรแกรมซอฟต์แวร์สำนักงาน Microsoft Office และระบบคลาวด์อย่าง Azure รวมไปถึง AI อย่าง ChatGPT
  2. UnitedHealth Group Incorporated – ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ ประกันสุขภาพส่วนบุคคล ประกันสุขภาพกลุ่ม และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
  3. Mastercard Incorporated – บริษัทที่ให้บริการการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลก ด้วยบัตรเครดิต และ บัตรเดบิต 

โดย Sector ที่ลงทุนสามอันดับแรกจะเป็นหุ้นกลุ่ม Healthcare, Financials และ Info Tech ตามลำดับ

.

กองทุนนี้บริหารโดยผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอหลัก 2 คน ได้แก่

  • Olivia Treharne, CFA ปัจจุบันเธอดูแลพอร์ตการลงทุน 3 กลยุทธ์ได้แก่ Global Dividend, International Dividend และ Global Long-Horizon เธอมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 13 ปี และจบการศึกษาปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์และประวัติศาสตร์สังคมจาก มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
  • Molly Greenen, CFA ปัจจุบันเธอดูแลพอร์ตการลงทุน 3 กลยุทธ์ได้แก่ Global Dividend, International Dividend และ Global Long-Horizon เธอมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 9 ปี และจบการศึกษาปริญญาโทเกียรตินิยมด้านการศึกษาธุรกิจและบัญชีจาก มหาวิทยาลัยเอดินบะระ

.

มาถึงอีกเรื่องที่น่าสนใจคือเมื่อไรกองทุนจะขายหุ้น โดยทางกอนทุนได้ให้ Framework ไว้ดังนี้

1. เมื่อเจอหุ้นตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า โดยพิจารณาจากลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อวัตถุประสงค์การกระจายความเสี่ยง

2. เมื่อไม่เห็น Upside ในหุ้นตัวนั้นอีกต่อไป 

3. เมื่อธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงโมเดลทางธุรกิจ หรือสูญเสียความสามารถในการสร้างคุณค่าไป

.

และเหมือนเคย ลงทุนได้ง่ายๆ ผ่าน

BGF Global Long-Horizon Equity Fund A2

ที่แอปฯ FinVest

.

┏━━━━━━━━━━━━━┓

💫 FinVest แอปลงทุนแบบใหม่ ที่ได้รวบรวมกองทุนทั่วโลก มาให้คุณเลือกกองทุนที่เหมาะสม และตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ได้ง่าย ๆ

⭐️ ลงทุนได้ทั้งไทยและเทศ แอปแรกในไทย ให้คุณลงทุนได้จาก 43 บลจ. ชั้นนำ

⭐️ ใช้งานง่าย เริ่มต้นแค่มือถือเครื่องเดียว ทำได้ตั้งแต่เปิดบัญชียันซื้อขายง่ายแค่ปลายนิ้ว

⭐️ เคียงข้างคุณ มีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยอัปเดตสภาพตลาด รวมถึงชี้เป้าการลงทุน

🔗 เริ่มลงทุน – แอป FinVest

🔗 สอบถาม – LINE

🔗 ติดตาม – Facebook / Instagram

🔗 อ่านบทความ – Website

┗━━━━━━━━━━━━━┛

#FinVest #YourWingsYourWays #BlackRock #BGFGlobalLongHorizonEquity

.

* ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

Related Posts