? Easy E-Receipt 2568 บลจ.ไหน ลดหย่อนได้บ้าง 

? Easy E-Receipt 2568 บลจ.ไหน ลดหย่อนได้บ้าง 


? Easy E-Receipt 2568  บลจ.ไหน ลดหย่อนได้บ้าง


Easy E-Receipt 2568  บลจ.ไหน ลดหย่อนได้บ้าง


Asset Plus

บลจ. แอสเซท พลัส ขอนำส่งข้อมูลประชาสัมพันธ์ โครงการ Easy E-Receipt ประจำปี 2568

สำหรับกองทุนที่มีค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-end Fee) สามารถนำค่าธรรมเนียมดังกล่าว มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2568 ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก


KAsset

KAsset ลดหย่อนภาษีปี 2568 กับ Easy E-Receipt 2.0 สูงสุด 30,000 บาท เมื่อลงทุนระหว่างวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568

ข้อควรทราบก่อนใช้สิทธิ์

1. รายการซื้อกองทุน สำหรับวันที่คำสั่งซื้อมีผลระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ใช้ลดหย่อนภาษีได้ทุกรายการ

2. รายการขายคืนกองทุน ลูกค้าต้องได้รับเงินค่าขายคืนเข้าบัญชีเงินฝากภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568  จึงจะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้

** เช่น ขายคืนกองทุน K-SET50 วันที่คำสั่งมีผล 28 กุมภาพันธ์ 2568 วันที่รับเงินค่าขายคืน 4 มีนาคม 2568 (ลดหย่อนภาษีไม่ได้) **

3. จำนวนเงินที่นำไปกรอกใน ภงด. เพื่อลดหย่อนภาษี ให้ใช้จำนวนเงินของ “ค่าธรรมเนียมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม” ซึ่งจะปรากฎที่หน้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากรบนระบบ D-MyTax (Digital MyTax)

ช่องทางการขอเอกสารของลูกค้า

>> สำหรับลูกค้าที่สมัครใช้บริการ K-Mutual Fund Reports จะได้รับใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านอีเมลที่ได้สมัครไว้

​>> สำหรับลูกค้าที่ไม่มีบริการ K-Mutual Fund Report สามารถขอผ่านธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือ ตัวแทนจำหน่ายที่ท่านมีบัญชีกองทุน โดยมีขั้นตอนการขอเอกสารดังนี้

1. กรอกแบบฟอร์มขอออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบฯ ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม​ คลิก​ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน (ลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง)

2. ส่งเอกสารทั้งหมดไปที่อีเมล์ของนายทะเบียนหลักทรัพย์ : [email protected] ตามที่ระบุในแบบฟอร์ม

หรือ สามารถขอเอกสารได้ที่ KAsset Contact Center 02-673-3888 กด 0

ระยะเวลาการส่งเอกสาร

วันที่รายการซื้อมีผล หรือ วันที่ลูกค้าได้รับเงิน
ค่าขายคืน
วันที่ลูกค้าได้รับเอกสารผ่านบริการ
K-Mutual Fund Report
16-31 มกราคม 256814 กุมภาพันธ์ 2568
01-28 กุมภาพันธ์ 256814 มีนาคม 2568

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก


KKPAM

Easy E-Receipt 2.0

ลงทุนกับ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน (Front End Fee) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 30,000 บาท* ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 68

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก


KSAM

บลจ.กรุงศรี เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ระหว่างวันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568

ผู้ลงทุนสามารถ นำค่าธรรมเนียม Front end/ Exit fee ของทุกรายการลงทุน (ซื้อ/ ขายคืน/ สับเปลี่ยนกองทุน) ที่มีค่าธรรมเนียมดังกล่าว มาใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

  1. ทำรายการซื้อ/ ขาย / สับเปลี่ยนในกองทุนที่มีค่าธรรมเนียม Front-end Fee หรือ Exit Fee  ระหว่าง 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 ในทุกช่องทาง
  2.  แจ้งความประสงค์ขอรับ E-Receipt ของค่าธรรมเนียมได้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 จนถึงวันที่ 10 ของเดือนถัดไปหลังวันทำรายการทาง https://www.krungsriassetonline.com/E-Receipt/?Lang=T (ท่านจะได้รับอีเมลยืนยันการแจ้งความประสงค์จากบริษัท)
  3. บริษัทจะจัดส่งข้อมูล E-Receipt ประจำเดือนให้กับกรมสรรพากร พร้อมกับส่งให้ท่านทางอีเมลในวันที่15 ของเดือนถัดไปหลังจากที่ท่านทำรายการ

การทำรายการและระยะเวลาการจัดส่งเอกสาร
ลูกค้าที่ทำรายการซื้อ หรือ ทำรายการขายคืนกองทุนสามารถแจ้งความประสงค์ และจะได้รับเอกสารตามข้อมูลตามช่วงเวลาดังนี้

วันที่รายการมีผล/วันที่ผู้ลงทุนได้รับเงินค่าขายคืนวันที่แจ้งความประสงค์*วันที่บริษัทส่ง E-Recept ให้ผู้ลงทุนและกรมสรรพากร
16 – 31 ม.ค. 68ภายใน 10 ก.พ. 68ภายใน 15 ก.พ. 68
1 – 28 ก.พ. 68ภายใน 10 มี.ค. 68ภายใน 15 มี.ค. 68

*ทั้งนี้ การแจ้งความประสงค์เพียงครั้งเดียวจะมีผลตั้งแต่วันที่แจ้งจนจบโครงการ | หากท่านแจ้งความประสงค์หลังจากวันที่ 10 ของเดือนถัดไปหลังจากที่ทำรายการ จะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับรายการในเดือนก่อนหน้าได้ เนื่องจากเลยกำหนดวันรับข้อมูลรายเดือนของกรมสรรพากร

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก


KTAM

บลจ. กรุงไทย ขอเรียนแจ้งว่า บลจ. ได้เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt ของทางภาครัฐ ที่เปิดในช่วงวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568

คำถาม-คำตอบ (Q&A) มาตรการ “Easy E-Receipt 2.0” คลิก


LHFUND

เมื่อซื้อหน่วยลงทุน หรือสับเปลี่ยนเข้าหน่วยลงทุน ระหว่างวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี ซึ่งคำนวณจากกองทุนที่มียอดค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end fee) สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท  

ยกเว้น กองทุนชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Class E)

ง่ายๆเพียง 3 ขั้นตอน

  1. ลงทุนซื้อหน่วยลงทุน หรือสับเปลี่ยนเข้าหน่วยลงทุนในผลิตภัณฑ์ในกองทุนที่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการขาย (Front-end fee) ระหว่างวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 (นับรายการวัน Effective Date) โดยไม่ต้องลงทะเบียนใดๆเพิ่มเติม
  2. เก็บหนังสือรับรองสิทธิในหน่วยลงทุนที่เป็นใบกำกับภาษีแบบเต็ม ที่ บลจ. ส่งให้กับผู้ถือหน่วยทาง Email ไว้เป็นหลักฐาน โดย บลจ. จะทำการส่งทุกสิ้นเดือน (รอบสิ้นเดือน ม.ค. , ก.พ. 2568) (กรณีผู้ถือหน่วยไม่มี E-mail สามารถแก้ไขข้อมูลผู้ถือหน่วยโดยเพิ่มข้อมูล E-mail ก่อนวันทำการสิ้นเดือนที่มีการทำรายการเท่านั้น)
  3. ยื่นลดหย่อน สำหรับปีภาษี 2568

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก


SCBAM

เริ่มแล้ว! ลงทุนดี รับสิทธิ 2 ต่อ 

✅ โอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน 

✅ สิทธิลดหย่อนภาษีจากค่าธรรมเนียมการซื้อกองทุน

? ค่าธรรมเนียมการซื้อกองทุน (Front-end fee) สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท (สำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการทั่วไปจากร้านค้าที่จดทะเบียนมูลค่าเพิ่ม)

? ตั้งแต่ 16 ม.ค. 68 – 28 ก.พ. 68 กับโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ปี 2568

**ปีนี้ใช้เป็น e-tax invoice หรือ e-receipt เท่านั้น! ค่าธรรมเนียมการซื้อกองทุนที่ใช้ในการลดหย่อนภาษีจะถูกนำส่งให้กรมสรรพากร และแสดงข้อมูลเพื่อยื่นแบบฯ ในต้นปี 2569

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขการลงทุนที่กรมสรรพากรกำหนด ได้ที่เว็บไซต์ กรมสรรพากร

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก




ตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการขาย (Front- end Fee) และจำนวนเงินลงทุน 
ถ้าอยาก ลดหย่อนภาษีเต็มสิทธิ 30,000 บาท จะต้องซื้อกองทุนเท่าไร


ตารางเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการขาย (Front- end Fee) และจำนวนเงินลงทุน 

ถ้าอยาก ลดหย่อนภาษีเต็มสิทธิ 30,000 บาท จะต้องซื้อกองทุนเท่าไร

ค่าธรรมเนียมการขาย (Front- end Fee)จำนวนเงินที่ต้องซื้อกองทุนถ้าต้องการใช้สิทธิ
ลดหย่อน 30,000 บาท
1.50%2,000,000 บาท
1.00%3,000,000 บาท
0.50%6,000,000 บาท



*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


#FinVest #YourWingsYourWays

Related Posts