มาดูกันว่า ถ้าโชคร้ายสุด ๆ เริ่มต้นลงทุนปุ๊บ ก็ต้องเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจโควิด-19 ทันที
แต่ละตลาดทั่วโลกจะให้ผลตอบแทนเท่าไร ?


🇺🇸 ถ้าลงทุนในตลาดหุ้นอเมริกา
กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ ชนิดสะสมมูลค่า
📱 แบบจำลอง DCA ใน กองทุน KFUSINDX-A กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ ชนิดสะสมมูลค่า เดือนละ 5,000 บาท
ลงทุนครั้งแรกวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 (ที่จุดสูงสุดของ NAV ก่อนเกิด panic ไวรัส Covid-19)
ราคาต่อหน่วย 13.9526 บาทต่อหน่วย
หลังจากนั้น NAV กองทุนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 9.3284 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 23 มีนาคม 2563 คิดเป็นผลตอบแทน -33.1422% ภายในเวลา 1 เดือน เป็นใครก็อยากจะร้องไห้
แต่หากอดทนกัดฟัน DCA ต่อไปเดือนละ 5,000 บาท จนถึงปัจจุบัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ
ต้นทุนต่อครั้ง 5,000 บาท
ต้นทุนรวมทั้งหมด 295,000 บาท
จำนวนครั้งที่ลงทุน 59 ครั้ง
ต้นทุน NAV เฉลี่ย 16.6447 บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 22.5010 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด 396,299.08 บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด 34.34%
(IRR Rate: 12.27%)
ข้อมูล ณ วันที่ 6 ม.ค. 2568
⁉️แล้วถ้าลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ที่จุดสูงสุดก่อนเกิดวิกฤติล่ะ ผลจะเป็นอย่างไร
📱 แบบจำลอง ลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ใน กองทุน KFUSINDX-A กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้อินเด็กซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ ชนิดสะสมมูลค่า ด้วยเงิน 295,000 บาท
ลงทุนไม้เดียว 295,000 บาท ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 (ที่จุดสูงสุดของ NAV ก่อนเกิด panic ไวรัส Covid-19)
ต้นทุน NAV ราคา 13.9526 บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 22.5010 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด ณ ปัจจุบัน 475,738.9303 บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด 61.26%
(ผลตอบแทนต่อปี 10.20%)
การลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ในตลาดหุ้นอเมริกาก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ สามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนแบบ DCA เนื่องจากตลาดหุ้นอเมริกา ทำจุดสูงสุดใหม่มาตลอดจนถึงปัจจุบัน การลงทุนแบบ DCA จะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้น ทำให้ทำผลตอบแทนได้น้อยกว่าการลงทุนแบบไม้เดียว
🇨🇳 ถ้าลงทุนในตลาดหุ้นจีน
กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน
🧮 แบบจำลอง DCA ใน กองทุน K-CHX กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน เดือนละ 5,000 บาท
ลงทุนครั้งแรกวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ราคาต่อหน่วย 12.5586 บาทต่อหน่วย
หลังจากนั้น NAV กองทุนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 10.7824 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 23 มีนาคม 2563 คิดเป็นผลตอบแทน -14.14% ภายในเวลา 1 เดือน
ต้นทุนต่อครั้ง 5,000 บาท
ต้นทุนรวมทั้งหมด 295,000.00บาท
จำนวนครั้งที่ลงทุน 59 ครั้ง
ต้นทุน NAV เฉลี่ย 12.1421 บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 11.2418 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด 273,126.51บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด -7.41%
(IRR Rate: -3.11%)
ข้อมูล ณ วันที่ 6 ม.ค. 2568
⁉️แล้วถ้าลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ที่จุดสูงสุดก่อนเกิดวิกฤติล่ะ ผลจะเป็นอย่างไร
🧮 แบบจำลอง ลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ใน K-CHX กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน ด้วยเงิน 295,000 บาท
ลงทุนไม้เดียว 295,000 บาท ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563
ต้นทุน NAV ราคา 12.5586 บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 11.2418 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด ณ ปัจจุบัน 264,068.5267 บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด -10.4852%
(ผลตอบแทนต่อปี -2.22%)
การลงทุนในกองทุน K-CHX กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นจีน ด้วยวิธี DCA ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยลดลง ทำให้ผลตอบแทนขาดทุนน้อยกว่า การลงทุนแบบ ไม้เดียว (Lump Sum)
🇪🇺 ถ้าลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป
กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นยุโรป
💻 แบบจำลอง DCA ใน กองทุน K-EUX กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นยุโรป เดือนละ 5,000 บาท
ลงทุนครั้งแรกวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ราคาต่อหน่วย 13.5745 บาทต่อหน่วย
หลังจากนั้น NAV กองทุนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 8.2927 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 18 มีนาคม 2563 คิดเป็นผลตอบแทน -38.90% ภายในเวลา 1 เดือน
ต้นทุนต่อครั้ง 5,000 บาท
ต้นทุนรวมทั้งหมด 295,000.00บาท
จำนวนครั้งที่ลงทุน 59 ครั้ง
ต้นทุน NAV เฉลี่ย 14.6470บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 18.7722 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด 378,083.38 บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด 28.16%
(IRR Rate: 10.19%)
ข้อมูล ณ วันที่ 6 ม.ค. 2568
⁉️แล้วถ้าลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ที่จุดสูงสุดก่อนเกิดวิกฤติล่ะ ผลจะเป็นอย่างไร
💻 แบบจำลอง ลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ใน K-EUX กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นยุโรป ด้วยเงิน 295,000 บาท
ลงทุนไม้เดียว 295,000 บาท ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563
ต้นทุน NAV ราคา 13.5745 บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 18.7722 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด ณ ปัจจุบัน 407,956.0204 บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด 38.29%
(ผลตอบแทนต่อปี 6.81%)
การลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ในการลงทุนในกองทุน K-EUX กองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นยุโรป ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 สามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนแบบ DCA เนื่องจากตลาดหุ้นยุโรป ฟื้นตัวจากจุดนั้นมาไกล การลงทุนแบบ DCA จะทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้น ส่งผลให้ทำผลตอบแทนได้น้อยกว่าการลงทุนแบบไม้เดียว
🇹🇭 ถ้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย
กองทุนเปิดกรุงไทย SET50 ชนิดสะสมมูลค่า
📝 แบบจำลอง DCA ใน กองทุน KT-SET50-A กองทุนเปิดกรุงไทย SET50 ชนิดสะสมมูลค่า เดือนละ 5,000 บาท
ลงทุนครั้งแรกวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ราคาต่อหน่วย 10.7884 บาทต่อหน่วย
หลังจากนั้น NAV กองทุนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 7.3279 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 23 มีนาคม 2563 คิดเป็นผลตอบแทน -32.07% ภายในเวลา 1 เดือน
ต้นทุนต่อครั้ง 5,000 บาท
ต้นทุนรวมทั้งหมด 295,000.00บาท
จำนวนครั้งที่ลงทุน 59 ครั้ง
ต้นทุน NAV เฉลี่ย 10.4353 บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 10.8048 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด 305,446.57 บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด 3.54%
(IRR Rate: 1.41%)
ข้อมูล ณ วันที่ 6 ม.ค. 2568
⁉️แล้วถ้าลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ที่จุดสูงสุดก่อนเกิดวิกฤติล่ะ ผลจะเป็นอย่างไร
📝 แบบจำลอง ลงทุนแบบไม้เดียว (Lump Sum) ในกองทุน KT-SET50-A กองทุนเปิดกรุงไทย SET50 ชนิดสะสมมูลค่า ด้วยเงิน 295,000 บาท
ลงทุนไม้เดียว 295,000 บาท ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563
ต้นทุน NAV ราคา 10.7884 บาทต่อหน่วย
มูลค่า NAV ณ ปัจจุบัน 10.8048 บาทต่อหน่วย
มูลค่าตลาด ณ ปัจจุบัน 295,448.4446 บาท
ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาด 0.15%
(ผลตอบแทนต่อปี 0.03%)
การลงทุนในกองทุน KT-SET50-A กองทุนเปิดกรุงไทย SET50 ชนิดสะสมมูลค่า ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ด้วยวิธี DCA ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยลดลง ทำให้คิดผลตอบแทนได้มากกว่า การลงทุนแบบ ไม้เดียว (Lump Sum) แต่ด้วยความที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่ไปไหน ลงทุนด้วยวิธีไหนผลตอบแทนก็น้อยเหมือนกัน
ดังนั้นข้อแม้สำคัญของการ DCA ก็คือจะต้องทำกับตลาดที่เป็นขาขึ้นด้วย

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
#FinVest #YourWingsYourWays