การจัดพอร์ต เป็นเรื่องยากถ้าไม่เข้าใจ
แต่การจัดพอร์ต จะเป็นเรื่องง่าย ถ้าได้อ่านบทความนี้
มาเริ่มกันที่การจัดพอร์ตแบบง่ายและเร็วที่สุดคือ การจัดพอร์ตแบบ 60/40 กัน

การจัดพอร์ตแบบ 60/40 คืออะไร
การจัดพอร์ตแบบนี้คือการจัดพอร์ตโดยที่
- หุ้นมีสัดส่วน 60%
- ตราสารหนี้มีสัดส่วน 40%
การจัดพอร์ตแบบนี้ข้อดีคือ
- ง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก
- มีแนวโน้มได้ผลตอบแทนอย่างสมดุล
ข้อควรรู้
- ไม่จำเป็นต้องใช้สัดส่วน 60/40 แต่ให้เลือกใช้ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- หมั่นตรวจสอบสถานะพอร์ตให้สอดรับกับเป้าหมายอยู่เสมอ
- ปรับพอร์ตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้งให้เข้าสัดส่วนที่วางไว้
- พิจารณาปรับระดับความเสี่ยงลดลงเมื่อเข้าใก้ลระยะเวลาเป้าหมาย
สอนจัดพอร์ตฉบับจับมือทำ ด้วย 4 กองทุนแนะนำจาก FinVest
มาถึงการจัดพอร์ตกันบ้าง ในบทความนี้เพื่อความง่าย เราจะจัดพอร์ตแบบ 60/40 ให้ดูเป็นตัวอย่าง
โดยกองทุนที่เราจะนำมาเป็นตัวอย่างในวันนี้มีทั้งหมด 4 กองด้วยกัน โดยเป็นกองทุนหุ้น 3 กอง และกองทุนตราสารหนี้อีก 3 กอง
มาเริ่มกันเลย

ตัวอย่างการจัดพอร์ตกองทุน SSF
เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะ 10 ปี พร้อมได้สิทธิลดหย่อนภาษี
สัดส่วนกองทุน
- KKP PGE-H-SSF 60%
- UGIS-SSF 40%
ผลตอบแทน
- YTD: 9%
- 3 เดือน: 4%
- 1 ปี: 18%
- 3 ปี: 2%
ผลขาดทุนสูงสุด: -21%
ลงทุนขั้นต่ำ: 1,667 บาท
ข้อมูลถึงวันที่ 30 ก.ย. 2567

ตัวอย่างการจัดพอร์ตกองทุน RMF
เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพื่อการเกษียณ
สัดส่วนกองทุน
- KKP PGE RMF-H 60%
- UGIS RMF 40%
ผลตอบแทน
- YTD: 10%
- 3 เดือน: 4%
- 1 ปี: 18%
- 3 ปี: –
ผลขาดทุนสูงสุด: -21%
ลงทุนขั้นต่ำ: 1,667 บาท
ข้อมูลถึงวันที่ 30 ก.ย. 2567

ตัวอย่างการจัดพอร์ตกองทุน TESG
เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะ 5 ปี ในสินทรัพย์ในประเทศ พร้อมได้สิทธิลดหย่อนภาษี
สัดส่วนกองทุน
- ASP-ThaiESG 60%
- KKP GB THAI ESG 40%
ผลตอบแทน
- YTD: 2%
- 3 เดือน: 3%
- 1 ปี: –
- 3 ปี: –
ผลขาดทุนสูงสุด: -2%
ลงทุนขั้นต่ำ: 2,500 บาท
ข้อมูลถึงวันที่ 30 ก.ย. 2567
รายละเอียดกองทุน
กองทุนหุ้น

KKP PGE-H-SSF และ KKP PGE RMF-H
จุดเด่นของกองทุน
- เป็นกองทุน Passive Fund ลงทุนในหุ้นโลก ที่กระจายไปในหลายประเทศ หลายอุตสาหกรรม มากกว่า 2,500 ตัว
- ค่าธรรมเนียมไม่แพง
- ได้สิทธิลดหย่อนภาษีจากกองทุน SSF และ RMF

ASP-ThaiESG
จุดเด่นของกองทุน
- ลงทุนในหุ้นยั่งยืน ซึ่งข้อมูลในอดีตชี้ว่ามักจะทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นทั่วไป
- ทีมงานบริหารพิสูจน์ผลงานผ่านกองทุนหุ้นไทยอื่น โดยสามารถสร้าง Active return ได้ระดับ top 5% ของกลุ่มกองทุนเทียบเคียงในระยะยาว
- ได้สิทธิลดหย่อนภาษีจากกองทุน ThaiESG
กองทุนตราสารหนี้

UGIS-SSF และ UGISRMF
จุดเด่นของกองทุน
- ลงทุนตราสารหนี้แบบยืดหยุ่น และผลตอบแทนชนะดัชนีชี้วัดมาอย่างต่อเนื่อง
- กระจายการลงทุนทั่วโลก และโฟกัสไปที่การป้องกันความเสี่ยงด้วยการคัดตราสารหนี้คุณภาพเข้าพอร์ตโดยเฉพาะ
- ตอนนี้ดอกเบี้ยให้ผลตอบแทนสูง
- ได้สิทธิลดหย่อนภาษีจากกองทุน SSF และ RMF

KKP GB THAI ESG
จุดเด่นของกองทุน
- ลงทุนในตราสารหนี้ ESG โดยเน้นไปที่ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่นตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
- เป็นกองตราสารหนี้ระยะยาว Duration อยู่ที่ 8 ปี 7 เดือน
- ตอนนี้ดอกเบี้ยให้ผลตอบแทนสูง
- ได้สิทธิลดหย่อนภาษีจากกองทุน ThaiESG
ทั้งนี้ขอบอกว่าถ้าใครเก่งแล้ว จะเลือกกองทุนไหนก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าใครเพิ่งเริ่มจัดพอร์ต การเลือกกองทุนนั้นต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ 5 ข้อนี้ด้วย
- สินทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุน
- ผลงานทั้งย้อนหลังและไปข้างหน้า
- ความเสี่ยง
- ค่าธรรมเนียม
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี
อีกทริคหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เมื่อลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษี นั่นก็คือ
- เลือก บลจ. ที่มีกองทุนให้เราเลือกเยอะ ๆ จะได้ไม่พลาดโอกาสสับเปลี่ยนไปมาได้
และขอบอกว่าแอปฯ FinVest สับเปลี่ยนกองทุนได้ง่าย ๆ ลองเลย
หมายเหตุ: ปรับพอร์ตทุกสิ้นปี
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
#FinVest #YourWingsYourWays