FinVest สาดความสุขช่วงสงกรานต์ ไปกับ ASP-T12
ผ่านไปไม่นานจากช่วงต้นปี ตอนนี้ก็เข้าสู่เดือนเมษาเต็มตัวแล้ว สำหรับเดือนเมษาหน้าร้อนนี้ เทศกาลที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอ คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเทศกาลสงกรานต์
ประเพณีปีใหม่ไทยนี้ ถ้าไม่นับเรื่องของการเล่นน้ำสงกรานต์แล้วนั้น การกลับไปรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่บ้าน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ก็ถือเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่ทำกันมาอย่างช้านาน
และในเมื่อไฮไลต์ของสงกรานต์ คือการกลับบ้าน นั่นหมายถึงกองทุนที่เราเลือกมาให้ในคราวนี้ ย่อมมาในธีม “กลับมาลงทุนในบ้าน” เช่นกัน
แต่กองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทย มีตั้งหลายกอง จะเลือกกองไหนดี ?
อยากบอกว่าคราวนี้เราเองได้คัดเลือกทีเด็ดกองทุนให้ทุกท่าน ขอเปรย ๆ ว่า กองทุนนี้คัดเลือกหุ้นที่ทางทีมวิจัยและผู้จัดการกองทุนมองว่า “ดีเยี่ยมที่สุด” 12 บริษัท ประกอบกันเป็นพอร์ตการลงทุน อยากรู้แล้วหล่ะสิว่าคือกองทุนไหน ?
และกองทุนที่ว่าคือกองทุน ASP-T12 จากทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Asset Plus นั่นเอง
แต่เพื่อความสะดวกสบายแก่นักลงทุนทุกท่าน ทางเราจะขอสรุป “5 เรื่องควรรู้ เกี่ยวกับ ASP-T12” ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาเลย
5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ
ASP-T12
1.
กองทุน ASP-T12 เลือกหุ้นที่ดีที่สุดเพียง 12 ตัว จากตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย ด้วยหลักการ Bottom Up คัดเลือกหุ้นด้วยการใช้สิ่งที่เรียกว่า Investment Scorecard โดยหลักการคิดคะแนนคือ
- ๐ Qualitative Scoring (50%) ให้คะแนนจากสองส่วน ดังนี้
- – ให้คะแนนจากการวิเคราะห์ตัวอุตสาหกรรม โดยการประเมินภาพรวมและความ น่าสนใจของอุตสาหกรรม 20% ผ่านกรอบวิเคราะห์ Five Forces Model, Industry Life Cycle
- – ตัวธุรกิจ โดยการวิเคราะห์ธุรกิจในเชิงลึก 30% ผ่านกรอบวิเคราะห์ PESTEL, Growth Cycle, SWOT
- ๐ Quantitative Scoring (50%) ให้คะแนนจาก 4 ส่วน ส่วนละ 12.5% ดังนี้
- – Valuation หรือการประเมินมูลค่าที่เหมาะสม 12.5%
- – Earnings Momentum หรือโมเมนตัมของกำไร 12.5%
- – Price Momentum หรือโมเมนตัมของราคาหุ้น 12.5%
- – Earnings Quality ความต่อเนื่องในการเติบโตของธุรกิจ คุณภาพและความยั่งยืนของกำไร 12.5%
2.
ส่วนสาเหตุที่กองทุน ASP-T12 เลือกลงทุนแบบ Active นั้น เป็นเพราะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าหากลงทุนในหุ้นไทยแบบ Passive ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นมากนัก โดยทำผลตอบแทนได้แค่เพียง 5.7% เท่านั้น
ในทางกลับกันการจับจังหวะลงทุน และเลือกเฉพาะหุ้นที่ดีที่สุด ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยจากข้อมูลของทาง ASP พบว่า ถ้าในช่วงต้นปี 2020 เราเลือกลงทุนแต่ในหุ้นที่ดีที่สุด 12 ตัว จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 82% เมื่อเทียบกับดัชนีที่ -8% ในปี 2020
โดยหุ้นที่ทางกองทุนเลือกลงทุนนั้น ไม่ได้จำกัดประเภท แต่ลงทุนหมดทุกกลุ่ม ทุกขนาด ที่มีคุณสมบัติ 3 อย่าง คือ หุ้นที่ยังเติบโตได้ใกล้เคียงกับตลาด หุ้นกลุ่มผู้ชนะที่เติบโตดีที่สุด และ หุ้นที่มีความผันผวนของกำไรและราคาสูง
3.
มาถึงส่วนธีมการลงทุนกันบ้าง ทางทีมผู้จัดการกองทุนมองว่าประเทศไทยเองนั้นมีศักยภาพเพียงพอที่จะเติบโตและน่าลงทุนจากหลายปัจจัย โดยธีมการลงทุนที่น่าสนใจนั้นถูกนำเสนอออกมาดังนี้
-
A
- Amazing Thailand
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยือน โดยในปี 2019 ก่อนการปิดประเทศ ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 39 ล้าน คนต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี
-
S
- Super Food
กระแสอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารรูปแบบใหม่กำลังมา เช่น เนื้อสัตว์จากพืชอย่างที่มีบริษัทในไทยเองที่กำลังผลิตหรือนำเข้ามา หรือไม่ว่าจะเป็นกระแสกัญชง กัญชา จากการปลดล็อคของนโยบายภาครัฐ สร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจอาหาร -
P
- Power of Clean Energy
จากนโยบายที่ต้องการลดมลภาวะจากผู้นำหลากหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดพลังงานสะอาดมี แนวโน้มที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังจากนี้ ในไทยเอง หลายบริษัทได้รับอานิสงส์จากกระแสนี้เช่นเดียวกัน -
F
- Farm Income Growth
ราคาสินค้าการเกษตรที่มีแนวโน้มปรับขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อที่เร่งตัว รวมไปถึงการฟื้นตัวจากการส่งออกที่หดตัวที่เกิดจาก Covid-19 อีกด้วย -
U
- Upward revision
นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณกำไรขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดต้นปี และ ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการขึ้นต่อไปอีกตามสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกในการเข้าทำการลงทุน -
N
- Normalization or New Normal
โรคระบาดครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างหรือบรรทัดฐานการใช้ชีวิตใหม่ ๆ อาทิ การซื้อของออนไลน์ การสั่งอาหารเดลิเวอรี ที่พฤติกรรมเหล่านี้นี่ส่งผลต่อผู้ประกอบการ โดยมีธุรกิจได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานของการใช้ชีวิตในครั้งนี้หลากหลายธุรกิจ -
D
- Domestic Demand
การทยอยฉีดวัคซีน , มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ และการทยอยเปิดพรมแดนระหว่างประเทศ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกำลังการบริโภคภายในประเทศให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
4.
ด้วยปรัชญาการลงทุนและธีมข้างต้นทำให้พอร์ตการลงทุนมีความยืดหยุ่นครอบคลุมสไตล์หุ้นที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม
- ๐ Value
- ที่มองหาหุ้นในกลุ่มที่ราคาที่น่าสนใจกว่าตลาด โดยยังเน้นหากลุ่มที่ยังเติบโตใกล้เคียงกับตลาด หรือมีปัจจัยภายนอกเป็นตัวเร่ง เพื่อป้องกันการเกิด Value Trap
- ๐ Growth
- เลือกกลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตดีกว่าตลาด รวมถึงเลือกหาผู้ชนะในกลุ่มที่เติบโตได้ดีที่สุด ในขณะที่มูลค่าต้องไม่แพงจนเกินไป
- ๐ Turnaround
- ที่สามารถลงทุนหรือทยอยเพิ่มน้ำหนักหลังเห็นการปรับตัวของกำไรในเชิงบวกตามที่คาดการณ์ไว้ โดยจะเน้นลงทุนเป็นสัดส่วนน้อย
5.
กองทุนนี้บริหารโดยผู้จัดการกองทุนไทยที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี พร้อมทีมงานที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ที่คัดสรรหุ้นไทย 12 ตัวท็อปผ่านกระบวนการที่เข้มข้น เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราขอยกตัวตัวอย่างหุ้น 5 บริษัท ที่ทาง ASP-T12 ลงทุนมากที่สุด ดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2022)
- ๐ ADVANC 8.89%
- ๐ BBL 8.85%
- ๐ KBANK 8.81%
- ๐ CPN 7.01%
- ๐ BLA 6.94%
นี่ก็คือสรุปทั้งหมด 5 ข้อ ที่ช่วยให้ทุกคนได้รู้จักกับ ASP-T12 มากขึ้นกว่าเดิม
ก่อนจากกันคราวนี้ ทาง FinVest เองก็ขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขและสมหวังทั้งด้าน สุขภาพ การงาน และการเงิน ตลอดปีและตลอดไป แต่ถ้าใครอยากสุขสมหวังเรื่องการเงินยิ่งขึ้น ก็ขอฝากให้พวกเรา FinVest เป็นตัวช่วยให้ทุกคนไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้นไปอีกขั้นด้วย
กองทุน ASP-T12 นี้ สามารถลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน FinVest ได้เลยที่ https://finvest.onelink.me/CoWV/cd81c26c
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Line https://lin.ee/3wINMDBsz
Follow us on Website: www.finvest.co.th
#FinVest #YourWingsYourWays
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.bangkokpost.com/business/2260403/all-provinces-record-lowest-level-of-revenue-in-2021https://intelligencecenter.tat.or.th/articles/20962