แม้ว่าตลาดหุ้นจีนจะกลับมาเข้าสู่โหมดผันผวนอีกครั้งจากการปิดเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่ตามมาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาลในการควบคุมผู้ติดเชื้อ COVID-19 และจากการที่พี่ใหญ่อย่างสหรัฐฯ เข้ามาตรวจสอบหุ้นจีนที่จดทะเบียนในประเทศและทำให้หุ้นของบริษัทจีนอีกมากมายถูกเพิ่มรายชื่อการนับถอยหลังการถูก Delist อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เมื่อไม่นานมานี้ตลาดค่อนข้างตอบรับในเชิงบวกจากข่าวที่ทางหน่วยงาน ก.ล.ต. ของจีน ได้กำลังร่างกฎระเบียบให้สหรัฐฯ สามารถตรวจสอบบัญชีบริษัทจีนส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้มากขึ้น โดยคาดว่าจะร่างกฎระเบียบเสร็จภายในครึ่งปีนี้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจีนก็ยังมีแนวโน้มที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและยังได้ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีมาตรการให้การสนับสนุนตลาดหุ้น หยุดการจัดระเบียบใหญ่ในปีนี้ และพร้อมที่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยทางการคาดหวังว่าจะทำให้ตัวเลข GDP ของจีนในปีนี้เติบโตมากกว่า 5% จึงยังอาจกล่าวได้ว่า รัฐบาลจีนยังมีกระสุนเบอร์ใหญ่สำรองอยู่อีกเต็มโกดังยักษ์เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวในปีนี้
นอกจากนี้เราขอพามาดูกันที่ปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาวของประเทศจีนที่ยังคงอยู่ดีไม่บุบสลายไปเลย ไม่ว่าจะเป็น…
- ๐ การบริโภค (Consuming)
ที่ตลาดขายปลีกออนไลน์ของจีนมีขนาดใหญ่และเติบโตขึ้นจากความเป็นสังคมเมืองที่เข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากยอดขายออนไลน์ที่เติบโตขึ้น 16.5% ในปี 2019 (จากข้อมูลของ China National Bureau of Statistics, 19 ม.ค. 2020) - ๐ สังคมเมือง (Urbanizing)
ในระหว่างช่วงปี 2010-2020 มีประชากรกว่า 200 ล้านคน ย้ายถิ่นฐานจากชนบทเข้ามาสู่สังคมเมือง และมีคาดการณ์ว่าจะย้ายเข้ามาเพิ่มอีกกว่า 140 ล้านคนในปี 2030 (จากข้อมูลของ UN World Urbanization Prospects, 2018) ซึ่งทำให้ความต้องการในบริการด้านการศึกษาและสุขภาพขยายตัวมากขึ้นด้วย - ๐ นวัตกรรมและยานยนต์ (Innovating and automating)
ประเทศจีนมีการติดตั้งเครื่องจักรที่เป็นหุ่นยนต์มากกว่า 25 % ต่อปีในภาคอุตสาหกรรม (จากข้อมูลของ International Federation of Robotics ,2019) และมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆมากมายและจดทะเบียนสิทธิบัตรในอันดับต้นๆของโลก - ๐ สังคมผู้สูงอายุ (Aging)
จำนวนผู้สูงอายุที่มากขึ้นในประเทศจีน จนมีคาดการณ์จาก UN ว่า จะมีจำนวนกว่า 348 ล้านคนในปี 2030 ทำให้ตลาดของกลุ่ม Healthcare ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตถึง 9.3% (p.a. CAGR) ในปีระหว่างปี 2017 – 2030
วันนี้ FinVest เลยขอชวนมาเปิดประตูสู่โอกาสในการเข้าทยอยสะสม
กองทุนหุ้นจีน A-share
เพื่อเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของจีน
ประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของเอเชีย กันอีกสักครั้งหนึ่ง
ตลาดหุ้น A-Share คืออะไร
ตลาดหุ้น A-Share เป็นตลาดหลักทรัพย์หลักของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น (SZSE) และตลาดหลักทรัพย์น้องใหม่อย่างตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง (BSE) โดยปัจจุบันตลาดดังกล่าวมีขนาดตลาดเป็นอันดับสองของโลก ด้วยมูลค่าตลาดปัจจุบันคิดเป็นเงินเท่ากับ 12 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากขนาดแล้ว ตลาดหุ้น A-Share มีดีอย่างไรอีกบ้าง ถึงน่าลงทุน
ตลาดหุ้น A-Share มีดีอย่างไร ทำไมต้องน่าลงทุน ?
- ๐ Correlation กับตลาดอื่นต่ำ
- ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของตลาดหุ้น A-Share คือมีค่า Correlation หรือความสัมพันธ์กับตลาดอื่นต่ำ หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีความเป็นเอกเทศกับตลาดอื่น มากไปกว่านั้น บริษัทส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดนี้ มักมีรายได้มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้แทบไม่ได้รับผลกระทบที่เกิดจากความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ
- ๐ มีการสับเปลี่ยน Sector ผู้นำอยู่เสมอ
- ในแต่ละปีตลาดหุ้นจีนจะมีการสับเปลี่ยน Sector ที่เป็นผู้นำหรือ Top Performer อยู่เสมอ ซึ่งส่งผลให้ตลาดดังกล่าวเหมาะกับการใช้ผู้เชี่ยวชาญบริหารและจัดการพอร์ตการลงทุน
- ๐ ความสนใจจากต่างชาติกำลังพุ่งตัวสูงขึ้น
- ในอดีตหุ้นจีนถูกนำมาคิดในดัชนี MSCI น้อยมากเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ ภายหลังการปรับน้ำหนักของหุ้นจีนเพิ่มมากขึ้นในดัชนี MSCI ในกลุ่ม Emerging Market ส่งผลให้หุ้นจีนได้รับความสนใจมากขึ้น
FinVest แนะนำ
กองทุนหุ้นจีน A-share
UBS (Lux) IS – China A Opportunity
ซึ่งเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในอุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่กำลังเติบโตและเป็นจุดเด่นของเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ โดยมุ่งแสวงหาผลตอบแทนผ่านการลงทุนทั้งในหุ้นจีน, หุ้นสหกรณ์, participation shares, participation certificates และใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีภูมิลำเนาหรือมีธุรกิจหลักอยู่ในประเทศจีน โดยทรัพย์สินหลักของกองทุนจะลงทุนในหุ้นจีน A-share ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และตลาดหลักทรัพย์เสินเจิ้น
Top 5 Sector exposure (28 กุมภาพันธ์ 2565)
- ๐ Consumer Staples 31.37%
- ๐ Health Care 22.21%
- ๐ Financial Services 18.20%
- ๐ Consumer Discretionary 9.39%
- ๐ Services 6.79%
Top Holdings 5 อันดับแรก (28 กุมภาพันธ์ 2565)
- ๐ KWEICHOW MOUTAI 9.82%
- เป็นบริษัทสุรายักษ์ใหญ่ “Blue Label แห่งประเทศจีน”ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น สุราประจำชาติจีน และมักถูกใช้เป็นเครื่องดื่มที่ใช้รับรองแขกระดับประเทศ
- ๐ YUNNAN BAIYAO GROUP 9.13 %
- เป็นบริษัทผู้ผลิตยาผงสมุนไพรสูตรจีนโบราณเพื่อรักษาบาดแผล มีชื่อเสียงยาวนานตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ในปัจจุบันยังครองตลาดเภสัชภัณฑ์ยาแผนโบราณ
- ๐ CHINA MERCHANTS BANK 7.91 %
- เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรกที่ถือหุ้นโดยนิติบุคคลในประเทศจีน เติบโตขึ้นจากธุรกิจรายย่อย เช่น บริษัทบัตรเครดิต กิจการขนาดกลางรวมถึงขนาดเล็ก
- ๐ WULIANGYE YIBIN 7.3%
- เป็นบริษัทผู้นำด้านการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันดับ 2 ของจีน รองจาก Moutai และมีรายได้หลักมาจากสินค้าตัวใหม่ “Wuliangye รุ่นที่ 8”
- ๐ PING AN BANK 5.53 %
- เป็นธนาคารค้าปลีกอัจฉริยะที่โดดเด่นในจีน ที่ให้บริการด้านสินเชื่อและบริการด้าน Investment Banking ผ่าน Ping An Bank
กองทุน UBS (Lux) IS – China A Opportunity นี้ น่าสนใจยังไง?
- ๐ สร้างโอกาสการลงทุนในประเทศจีน ผ่านตลาดหุ้นจีน A-Share ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนและแรงหนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจจีน
- ๐ เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากโครงสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศจีน
- ๐ มีการลงทุนแบบเชิงรุก คัดเลือกหุ้นแบบ Bottom Up เน้นไปที่หุ้นกลุ่ม Large-cap โดยใช้กลยุทธ์ High Conviction (ถือหุ้นประมาณ20-60 ตัว) เน้นไปที่หุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูง
จะลงทุนโดยตรงผ่านกองแม่
UBS (Lux) IS – China A Opportunity
หรือกองทุนในไทย
ก็สามารถลงทุนผ่าน FinVest ได้เลยเช่นเดียวกัน
กองทุนทั่วไปผ่าน
- ๐ TMB-ES-CHINA-A
- ๐ T-ES-CHINA A
- ๐ KFACHINA
กองทุนลดหย่อนภาษีผ่าน
- ๐ KFACHINRMF และ KFACHINSSF
กองทุนทั้งหมดนี้ สามารถลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน FinVest ได้ที่ https://finvest.onelink.me/CoWV/cd81c26c
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Line https://lin.ee/3wINMDBsz
Follow us on Website: www.finvest.co.th
#FinVest #YourWingsYourWays
ข้อมูลอ้างอิง
UBS ,CNBC, KSAM, TMBAM ,Forbesthailand ,Finvest