สอนจัดพอร์ต Core-Satellite ฉบับจับมือทำ โดย FinVest

สอนจัดพอร์ต Core-Satellite ฉบับจับมือทำ โดย FinVest


คราวที่แล้วเราได้พูดถึงการจัดพอร์ตแบบ 60/40 ไปแล้ว

เชื่อว่ามีนักลงทุนหลายท่านที่รู้สึกว่า 60/40 อาจจะธรรมดาไป โดยเฉพาะนักลงทุนที่ชอบความตื่นเต้น

ทีนี้เราลองมาดูการจัดพอร์ตอีกแบบหนึ่งที่ช่วยให้นักลงทุน (อาจจะ) คว้าโอกาสที่มากกว่า 60/40 นั่นก็คือการจัดพอร์ตแบบ Core-Satellite

ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่า Core-Satellite คืออะไร พร้อมตัวอย่าง ไปลุยกันเลย





การจัดพอร์ตแบบ Core-Satellite คืออะไร?


หลักการของ Core-Satellite ถ้าให้พูดง่าย ๆ คือการแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Port) ไปคว้าโอกาสในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งพอร์ตการลงทุนที่แยกออกมานี้เราจะเรียกมันว่าพอร์ตการลงทุนเสริม (Satellite Port)


ให้มองภาพง่าย ๆ สมมติว่าเราเป็นคนทำงานประจำ

Core Port = รายได้ประจำ

Satellite Port = รายได้เสริม

แน่นอนว่าเราต้องมีการทำให้รายได้หลักของเราเติบโตอย่างมั่นคง แต่ถ้าช่วงไหนมีโอกาสหาเงินเพิ่มเข้ามา แน่นอนว่าเราก็ไม่ปฏิเสธ และพร้อมที่จะคว้าเอาไว้ครับ


ข้อดี : สามารถคว้าโอกาสเติบโตที่สูงขึ้นไปพร้อมกับไม่ทำให้พอร์ตมีความเสี่ยงมากจนเกินไป 

จุดที่ต้องระวัง : ถ้า Core Port เสี่ยงมากเกินไป หรือ จำกัดความเสี่ยงส่วน Satellite ได้ไม่ดี อาจทำให้ผลตอบแทนผันผวนได้




สอนจัดพอร์ต Core-Satellite แบบจับมือทำ


ขั้นตอนการจัดพอร์ต Core – Satellite แบบ 70%:30% มีดังนี้

  1. แบ่งเงินเป็นสองก้อน สัดส่วน 70% และ 30%
  2. ก้อนแรกสัดส่วน 70% จะลงทุนกี่กองทุนก็ได้ แต่โจทย์ของพอร์ตคือทำให้เงินต้นเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคง ในความเสี่ยงที่เหมาะสม
  3. ก้อนที่สองสัดส่วน 30% จะลงทุนกี่กองทุนก็ได้ แต่โจทย์คือต้องช่วยกองแรกสร้างผลตอบแทนให้ดีขึ้นในแต่ละช่วงสภาวะตลาด แน่นอนว่าผลตอบแทนที่ดีอาจมาจากสองส่วน ส่วนแรกคือหลีกเลี่ยงการขาดทุน ส่วนที่สองคือหาผลตอบแทนเพิ่มเติม





ตัวอย่างการจัดพอร์ต Core-Satlliete


SSF

เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะ 10 ปี พร้อมได้สิทธิลดหย่อนภาษี

70%        กองทุนผสม        KKP INCOME-H-SSF

10%        กองทุนหุ้นอินเดีย        KT-INDIA-SSF

10%        กองทุนทองคำ        SCBGOLDH-SSF

10%        กองทุนหุ้นทั่วโลกสไตล์เติบโต KKP GNP-H-SSF

ผลตอบแทนถึงสิ้นกันยายน 2567

  • ตั้งแต่ต้นปี: 10%
  • 3 เดือน: 4%
  • 1 ปี: 18%
  • 3 ปี: –

ผลขาดทุนสูงสุด: -27%

ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท





RMF สายเซฟ

เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ

70%        กองทุนผสม        KWPBALRMF

10%        กองทุนหุ้นอินเดีย        KINDIARMF

10%        กองทุนทองคำ        SCBGOLDHRMF

10%        กองทุนหุ้นทั่วโลกสไตล์เติบโต    KKP GNP RMF-H

ผลตอบแทนถึงสิ้นกันยายน 2567

  • ตั้งแต่ต้นปี: –
  • 3 เดือน: 1%
  • 1 ปี: –
  • 3 ปี: –

ผลขาดทุนสูงสุด: –

ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท 





RMF สายชิล

เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ

70%        กองทุนผสม        KWPSPEEDRMF

10%        กองทุนหุ้นอินเดีย        KINDIARMF

10%        กองทุนทองคำ        SCBGOLDHRMF

10%        กองทุนหุ้นทั่วโลกสไตล์เติบโต    KKP GNP RMF-H

ผลตอบแทนถึงสิ้นกันยายน 2567

  • ตั้งแต่ต้นปี: –
  • 3 เดือน: 1%
  • 1 ปี: –
  • 3 ปี: –

ผลขาดทุนสูงสุด: –

ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท        





RMF สายลุย

เหมาะกับใคร: นักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อการเกษียณ

70%        กองทุนผสม        KWPULTIRMF

10%        กองทุนหุ้นอินเดีย        KINDIARMF

10%        กองทุนทองคำ        SCBGOLDHRMF

10%        กองทุนหุ้นทั่วโลกสไตล์เติบโต     KKP GNP RMF-H

ผลตอบแทนถึงสิ้นกันยายน 2567

  • ตั้งแต่ต้นปี: –
  • 3 เดือน: -2%
  • 1 ปี: –
  • 3 ปี: –

ผลขาดทุนสูงสุด: -3%

ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท




จุดเด่นกองทุน


KKP INCOME-H-SSF

จุดเด่นของกองทุน KKP INCOME-H-SSF

  1. ลงทุนใน BGF Global Multi-Asset Income Fund ที่มีนโยบายการลงทุนแบบผสม เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้กระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ เช่น หุ้นปันผลสูง ตราสารหนี้ รีท และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 2,500 ตัว เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต​ ทำให้สามารถเข้าลงทุนได้ตลอดเวลา
  2. กองทุนหลักมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ และสร้างโอกาสเติบโตของเงินทุนระยะยาว โดยทำผลตอบแทนย้อนหลังนับตั้งแต่จัดตั้งเมื่อ 28 มิถุนายน 2012 ได้ราว ๆ 4% ต่อปี 
  3. กองทุนลงทุนอย่างยืดหยุ่น ทำให้นักลงทุนไม่ต้องวุ่นวายจัดพอร์ตเอง




กองทุนซีรีส์ KWPBALRMF KWPSPEEDRMF KWPULTIRMF

จุดเด่นของกองทุนซีรีส์นี้

  1. One-Stop Diversification สะดวก มีการกระจายความเสี่ยง ลงทุนในกองทุนเดียวได้ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ ทั่วโลก 
  2. เป็นการร่วมมือระหว่าง KASSET กับ J.P. Morgan Asset Management เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับทุกภาวะตลาด
  3. กองทุนลงทุนอย่างยืดหยุ่น ทำให้นักลงทุนไม่ต้องวุ่นวายจัดพอร์ตเอง

ข้อแตกต่างระหว่าง KWPBALRMF, KWPSPEEDRMF และ KWPULTIRMF

  • KWPBALRMF ลงทุนในหุ้น 15-45% ตราสารหนี้ 55-85%
  • KWPSPEEDRMF ลงทุนในหุ้น 50-80% ตราสารหนี้ 20-50%
  • KWPULTIRMF ลงทุนในหุ้น 70-100% ตราสารหนี้ 0-30%




KT-INDIA-SSF

จุดเด่นของกองทุน KT-INDIA-SSF 

  1. ลงทุนผ่านกองทุนรวมหลัก Invesco India Equity ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นอินเดีย ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  2. กองทุนหลักมีการบริหารงานเชิงรุก ซึ่งเน้นลงทุนหุ้นกลุ่มการเงิน บริโภค และอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นธุรกิจฐานรากของประเทศ
  3. ประชากรวัยแรงงานขยายตัว ทำให้การบริโภคเร่งตัว และส่งผลให้รัฐบาลเก็บภาษีและใช้จ่ายได้มากขึ้น นำไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว




KINDIARMF

จุดเด่นของกองทุน KINDIARMF

  1. ลงทุนผ่าน Goldman Sachs India Equity ซึ่งลงทุนในหุ้นอินเดีย
  2. ประเทศอินเดียมีแรงขับเคลื่อนหลักจากภายในประเทศ ช่วยหนุนธุรกิจที่เกี่ยวกับการบริโภค
  3. ลงทุนหุ้นอินเดียที่เน้นขนาดกลาง/เล็ก มากกว่าดัชนี คุณภาพดี เติบโตสูง
  4. จังหวะนี้น่าสนใจเพราะดัชนีหุ้นอินเดียเข้าสู่โซน Oversold

อ่านเพิ่มเติม




SCBGOLDH-SSF และ SCBGOLDHRMF

จุดเด่นของกองทุน SCBGOLDH-SSF และ SCBGOLDHRMF

  1. กองทุนทองคำเเท่งที่ลงทุนใน SPDR Gold Trust 
  2. ค่าธรรมเนียมต่ำ สภาพคล่องสูง
  3. ทองคำมักจะเป็นสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตหลัก
  4. จังหวะนี้น่าสนใจเพราะธนาคารกลางต่างผ่อนปรนนโยบาย ป้องกันความไม่แน่นอนจากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ และความขัดแย้งระหว่างประเทศ

ข้อแตกต่างระหว่าง SCBGOLDH-SSF และ SCBGOLDHRMF

  • SCBGOLDH-SSF เป็นกองทุน SSF และ จ่ายปันผล
  • SCBGOLDHRMF เป็นกองทุน RMF ไม่จ่ายปันผล




KKP GNP-H-SSF และ KKP GNP RMF-H

จุดเด่นกองทุน KKP GNP-H-SSF และ  KKP GNP RMF-H 

  1. ลงทุนในกองทุนหลัก Capital Group New Persepctive ที่เน้นลงทุนในบริษัทข้ามชาติที่มีรายได้แข็งแกร่ง
  2. กองทุนใช้กลยุทธ์คัดเลือกหุ้นแบบ Bottom-up โดยทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญและสไตล์การลงทุนที่หลากหลาย 
  3. พอร์ตการลงทุนปัจจุบันมีการกระจายการลงทุนในหุ้นกว่า 200 บริษัท ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม
  4. จังหวะนี้น่าสนใจเพราะแนวโน้มการเติบโตของตลาดหุ้นโลกที่มีการกระจายตัวไปยังหลากหลายภาคธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณที่น่ากังวล

ข้อแตกต่างระหว่าง KKP GNP-H-SSF และ  KKP GNP RMF-H

  • KKP GNP-H-SSF เป็นกองทุน SSF
  • KKP GNP RMF-H เป็นกองทุน RMF




หมายเหตุ: พอร์ตจำลองด้วยการปรับพอร์ตทุกสิ้นปี




*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


#FinVest #YourWingsYourWays

Related Posts