ลงทุนใน Global Infrastructure หลุมหลบภัยในยามที่ตลาดแสนผันผวน

ลงทุนใน Global Infrastructure หลุมหลบภัยในยามที่ตลาดแสนผันผวน

ช่วงนี้หากจะบอกว่าสภาพตลาดการเงินตลาดการลงทุน ผันผวนมากเป็นพิเศษ คงจะไม่เกินจริงสักเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะปัจจัยต่างๆ ที่ไม่แน่นอนและยากเกินกว่าจะควบคุม เช่นเรื่องของเงินเฟ้อ , ราคาน้ำมัน , สงคราม ไหนจะมี Covid-19 ที่ยังไม่จบไม่สิ้นอีก
ทางเราเองเล็งเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมา อาจจะแนะนำกองทุนเชิงรุกไปมากแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่ยังมีความตึงตัวสูงแบบนี้ การลงทุนในหมวดเชิงรับ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
ซึ่งกองทุนเชิงรับที่เราคัดสรรมาในครั้งนี้ ลงทุนในธีมของ “Global Infrastructure”
มาถึงจุดนี้ หลายคนคงสงสัยกันแล้วสิว่า “Global Infrastructure” มันคืออะไรกันนะ ?

Global Infrastructure คือระบบโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก

Global Infrastructure คือการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานในหลายประเทศทั่วโลก

ตัวอย่างเช่น
  • ระบบพลังงาน เช่น ไฟฟ้า , ท่อส่งแก๊ส , ระบบชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า
  • ระบบโทรคมนาคม อย่างอินเตอร์เน็ต หรือ โทรศัพท์
  • ระบบคมนาคม อย่างเช่น ทางด่วน , รถไฟ , ท่าอากาศยาน
  • ระบบน้ำ เช่น ระบบจัดการน้ำ , ระบบบำบัดน้ำเสีย
ซึ่งถ้าฟังดูผิวเผิน การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เป็นอะไรที่ดูจืดชืดมาก แต่เราอยากให้คุณลองนึกภาพไปว่า ถ้าหากว่า…
กรุงเทพที่ไม่มีทางด่วน ?
ประเทศไทยที่อินเตอร์เน็ตช้า ?
ประเทศไทยที่ไม่มีสนามบิน ?
คงเห็นกันแล้วว่าโครงสร้างพื้นฐานนั้นมีความสำคัญคล้ายจะเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ แต่กว่าเราจะตระหนักถึงความสำคัญตรงนี้ได้อย่างชัดเจนก็ต่อเมื่อไม่มี
ด้วยเหตุนี้เอง เป็นเหตุผลให้ภาครัฐ ต้องคอยลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานอยู่เสมอ เพื่อฟื้นฟูของเก่าให้ดี พร้อม ๆ กับพัฒนาของใหม่ให้ก้าวล้ำอยู่เสมอ

ข้อดีของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก

ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ ไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือแย่

โครงสร้างพื้นฐาน เป็นอะไรที่คนในชาติต้องใช้งาน แม้ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัยแล้วก็ตาม นอกจากนี้ สินค้าในกลุ่มสาธารณูปโภคต่างๆ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ตัวอย่างเช่นค่าไฟ ยังสามารถปรับราคาขึ้นตามเงินเฟ้อได้อีกด้วย ดังนั้น ธุรกิจกลุ่มนี้จึงมีรายรับเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ เหมาะจะเป็นหลุมหลบภัย ในยามเศรษฐกิจไม่ค่อยเป็นใจนั่นเอง

เป็นการลงทุนที่ไม่มีวันจบ

โครงสร้างพื้นฐานเป็นอะไรที่ต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซม และพัฒนาให้ดีและทันโลกทันยุคสมัยอยู่เสมอ นั่นทำให้ภาครัฐมีการลงทุนในส่วนนี้อยู่ตลอด
ตัวอย่างเช่น ที่สหรัฐอเมริกาประธานธิปดี โจ ไบเดน ได้อนุมัติกฏหมาย Bipartisan Infrastructure วงเงินราว ๆ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว ๆ สี่สิบล้านล้านบาท) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยจุดที่น่าสนใจนอกจากเรื่องการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิมเช่น ถนนหนทาง , สะพาน , ทางรถไฟแล้วนั้น เงินในส่วนนี้ยังถูกวางไว้สำหรับรองรับเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่จะมาถึงในอนาคตอีกด้วย
ในฟากฝั่งของ EU ประเทศที่มีการทุ่มงบมากเป็นอันดับต้นๆ สำหรับโครงการทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน คือ อิตาลี โดยมีการทุ่มเงินกว่า 200 พันล้านเหรียญยูโร (ราว ๆ เจ็ดล้านล้านบาท) สำหรับการพัฒนาทางด้านปัจจัยพื้นฐาน ในแผนงานที่ชื่อ “Next Generation Italia” เพื่อฟื้นฟูประเทศอิตาลีจากการระบาดของ Covid-19
มากไปกว่านั้น การพัฒนาครั้งนี้ยังทำเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาว ที่เมือง Milan ในปี 2026 ที่จะถึงนี้อีกด้วย

 กระจายความเสี่ยง

การที่กระจายการลงทุนไปทั่วโลก เป็นช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของการลงทุนโดยกระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง จากเหตุความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน คงทำให้นักลงทุนเห็นภาพแล้วว่าถ้าเราบังเอิญไปลงทุนแบบกระจุกตัวในประเทศที่กำลังเกิดปัญหา ย่อมส่งผลเสียต่อพอร์ตการลงทุนอย่างแน่นอน

มาถึงตรงนี้ ทางเราคิดว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมันไม่ได้จืดอย่างที่หลาย ๆ คนเคยคิด และที่สำคัญ ในยามที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้คือหลุมหลบภัยชั้นดีสำหรับนักลงทุน

ซึ่งถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจ ทางเราเองก็มีกองทุนแนะนำเหมือนเช่นเคย จะเป็นกองทุนไหนนั้น เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปดูกันเลย

FinVest แนะนำ
กองทุนโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก

Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund

Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก โดยเน้นไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่มีลักษณะ Defensive หรือโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม

แต่ทีนี้ไม่ใช่ว่ากองทุนจะลงบริษัทไหนก็ได้ ทางกองทุนเองก็มีหลักการในการคัดบริษัทเข้าพอร์ตการลงทุน โดยเงื่อนไขหลักคือต้องมีขนาดตลาดขั้นต่ำอยู่ที่ 250 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นอย่างน้อย นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ อีกเช่น ความสม่ำเสมอของรายได้ และมีอายุของกิจการยาวนานอีกด้วย

ชนิดโครงสร้างพื้นฐานที่ทำการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก
(28 กุมภาพันธ์ 2565)

  • Tollroads 25.82%
  • Diversified Utilities 23.84%
  • Electricity Utilities 15.87%
  • Gas Utilities 10.68%
  • Railroads 5.54%

Top Holdings 5 อันดับแรก
(28 กุมภาพันธ์ 2565)

  • National Grid 8.76% บริษัทผลิตก๊าซและไฟฟ้าของอังกฤษ แต่ให้บริการทางด้านตอนเหนือของอเมริกา
  • VINCI 8.12% บริษัทรับเหมาก่อสร้างทางจากฝรั่งเศษ
  • Snam 7.86% บริษัทด้านพลังงานจากอิตาลี
  • Ferrovial 7.38% บริษัทที่ดูแลทางด้านการคมนาคมจากสเปน
  • Terna 6.38% ผู้ดำเนินระบบการส่งกำลังไฟฟ้าในกรุงโรม

สัดส่วนประเทศที่ทำการลงทุนมากสุด 4 อันดับแรก
(28 กุมภาพันธ์ 2565)

  • อิตาลี 23.86%
  • สหรัฐอเมริกา 17.65%
  • สหราชอาณาจักร 17.54%
  • ฝรั่งเศษ 11.60%
แต่ว่าในปัจจุบัน ยังไม่สามารถลงทุนใน Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ได้โดยตรง แต่ไม่ต้องกังวล มาถึงจุดนี้แล้วมีหรือที่พวกเราจะมาแนะนำกองดีๆ แต่ไม่มีทางซื้อได้ เพราะว่าในไทย ได้มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมถึง 3 แห่ง ที่มีกองทุนซึ่งลงทุนผ่านกองทุน Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ซึ่งทั้ง 3 แห่งมีดังนี้

1. TMBGINFRA จาก บลจ. Tmb Eastspring

นโยบายการลงทุน

กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว คือ กองทุนLazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ในหน่วยลงทุนชนิด Class A ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

2. KKP GINFRAEQ-Hจากบลจ. เกียรตินาคินภัทร

นโยบายการลงทุน

กองทุนหุ้นต่างประเทศแบบ Feeder Fund ตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นของบริษัทโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วโลก เน้นลงทุนกองทุนรวมหลักเพียงกองทุนเดียวคือ Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund โดยกองทุนนี้จะลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure Companies) และมีการคัดเลือกหลักทรัพย์ด้วยกระบวนการและปัจจัยกลั่นกรองหลายปัจจัย ซึ่งครอบคลุมปัจจัยเชิงคุณภาพ ตลอดจนการกระจายการลงทุนทั้งในมิติของพื้นที่ภูมิภาคและกลุ่มอุตสาหกรรม
3. PRINCIPAL GIF จากบลจ. ซีไอเอ็มบี พรินซิเพิล

นโยบายการลงทุน

กองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุน Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund(กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนมี Net Exposure ในหน่วย CIS ของกองทุนดังกล่าว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
มาถึงตรงนี้ ทางเราหวังว่า ผู้อ่านคงได้เห็นความสำคัญของการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และถ้าอยากลงทุนแบบเชิงรับ ก็ขอฝาก 3 กองทุนนี้ไว้เป็นตัวเลือกให้แก่นักลงทุนทุกๆท่านด้วย
กองทุนทั้งหมดนี้ สามารถลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน FinVest ได้ที่ https://finvest.onelink.me/CoWV/cd81c26c
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Line https://lin.ee/3wINMDBsz
Follow us on Website: www.finvest.co.th
#FinVest #YourWingsYourWays

—————————————————————————————–

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.s-ge.com/en/publication/fact-sheet/20211-c3-italy-infrastructure-projects-infra2
https://www.whitehouse.gov/bipartisan-infrastructure-law/
https://www.bigrentz.com/blog/types-of-infrastructure
https://www.nasdaq.com/articles/4-benefits-to-global-infrastructure-investing-2021-07-06
https://www.ampcapital.com/au/en/insights-hub/articles/2018/September/why-invest-in-global-listed-infrastructure
https://fknol.com/list/best-performing/diversified-utilities-stocks.php

Related Posts