เปรียบเทียบ Passive Fund VS Active Fund ต่างกันอย่างไร เหมาะกับเราไหม?

เปรียบเทียบ Passive Fund VS Active Fund ต่างกันอย่างไร เหมาะกับเราไหม?


การเลือกลงทุนในกองทุนรวม ถือเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนผู้ต้องการกระจายความเสี่ยง ไปในสินทรัพย์หลายๆ ตัว แต่ด้วยรูปแบบกองทุนที่มีให้เลือกมากมาย หนึ่งในคำถามยอดฮิตที่นักลงทุนมักเจอคือ กองทุนรวมเชิงรับ (Passive Fund) กับ กองทุนรวมเชิงรุก (Active Fund) ต่างกันอย่างไร? บทความนี้จะมาไขข้อสงสัย พร้อมเปรียบเทียบกองทุนทั้งสองประเภท เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ




Passive Fund คืออะไร?

Passive Fund หรือเรียกอีกชื่อว่า Index Fund คือกองทุนรวมที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (Benchmark) เช่น ดัชนี SET50 ของตลาดหุ้นไทย หรือ S&P 500 ของตลาดหุ้นอเมริกา  โดยกองทุนจะลงทุนในสินทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีนั้นๆ ตามสัดส่วนที่ดัชนีกำหนด

เปิดตัวใหม่! FinVest Index Fund Pick กองทุน Index Fund แนะนำ โดย FinVest


Active Fund คืออะไร?

Active Fund คือกองทุนรวมที่ผู้จัดการกองทุนพยายามคัดเลือกสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ผลตอบแทนของกองทุนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง โดยใช้ความรู้ความสามารถในการวิเคราะห์และคาดการณ์แนวโน้มตลาด




เปรียบเทียบ Passive Fund vs Active Fund


เปรียบเทียบ Passive Fund vs Active Fund

Passive FundVSActive Fund
สร้างผลตอบแทนใกล้เคียงดัชนีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนี
ลงทุนตามสัดส่วนในดัชนีกลยุทธ์คัดเลือกสินทรัพย์และกำหนดสัดส่วน ตามการตัดสินใจของผู้จัดการกองทุน
ต่ำกว่าค่าธรรมเนียมสูงกว่า
ใกล้เคียงดัชนีผลตอบแทนมีโอกาสสูงกว่าหรือต่ำกว่าดัชนี
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง ลดความเสี่ยงจากการเลือกหุ้น และต้องการจ่ายค่าธรรมเนียมต่ำเหมาะกับใครเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง และเชื่อว่าผู้จัดการกองทุนจะสามารถทำได้ โดยยอมจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น


ข้อดีของ Passive Fund

  • ค่าธรรมเนียมต่ำ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน ช่วยส่งผลให้ผลตอบแทนระยะยาวสูงขึ้น
  • ช่วยกระจายความเสี่ยง ลดความเสี่ยงจากการเลือกหุ้นและการกำหนดสัดส่วนในการลงทุน


ข้อควรพิจารณาของ Passive Fund

  • ไม่สามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดได้


ข้อดีของ Active Fund

  • โอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้น โดยผู้จัดการกองทุนอาจคัดเลือกสินทรัพย์และปรับสัดส่วนการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดได้
  • ปรับสัดส่วนการลงทุนตามสถานการณ์  ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดได้


ข้อควรพิจารณาของ Active Fund

  • ค่าธรรมเนียมสูง  มีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสูงกว่า ซึ่งส่งผลมากต่อผลตอบแทนระยะยาว
  • ผลตอบแทนขึ้นกับความสามารถของผู้จัดการกองทุน อาจทำผลตอบแทนได้สูง หรือต่ำกว่าดัชนีอ้างอิงได้


สามารถลงทุนได้ที่ แอป FinVest





👍 ตัวอย่าง กองทุน Passive Fund


K-US500X-A(A) กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส พาสซีฟ ชนิดสะสมมูลค่า

ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares Core S&P 500 ETF เป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้น NYSE Arca ซึ่งมีนโยบายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนี S&P 500

🪙 ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท

ค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.54% ต่อปี

รวมค่าใช้จ่าย 0.62% ต่อปี

*ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีของดัชนี S&P 500 ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 10.26% ต่อปี

รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก


👍 ตัวอย่าง กองทุน Active Fund


K-USA-A(A) กองทุนเปิดเค ยูเอสเอ หุ้นทุน ชนิดสะสมมูลค่า

กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารของบริษัทสหรัฐอเมริกาที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีรูปแบบธุรกิจที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว กองทุนมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวสูงกว่าดัชนีชี้วัด

🪙 ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก 500 บาท

ค่าธรรมเนียมการจัดการ 1.60% ต่อปี

รวมค่าใช้จ่าย 1.70% ต่อปี




*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน


#FinVest #YourWingsYourWays

Related Posts