ตลาดตอนนี้มีความผันผวน เราเห็น Sector Rotation, Black Monday และการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งผู้นำ สหรัฐฯ สถานการณ์แบบนี้ กองทุนไหนดี FinVest มีคำตอบครับ
สัญญาณ Sector Rotation เริ่มมีให้เห็นตั้งแต่เดือน ก.ค 2024 ที่ผ่านมาแล้ว
ในช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณการ Rotation ออกจากหุ้นกลุ่ม
- Information Technology -3.4%
- Communication Services -4.3%
- Consumer Discretionary 0.9%
โดยเม็ดเงินเริ่มไหลเข้าไปสู่กลุ่มที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นเมื่ออัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างกลุ่ม
- Health Care +3.1%
- Real Estate +8.2%
- Utilities +7.5%
Black Monday รอบนี้เกิดจากอะไร
เหตุการณ์ Black Monday รอบนี้เกิดจากการ Carry Trade ค่าเงินเยน ถ้าให้นึกภาพตามง่าย ๆ สมมติว่าธนาคาร A ปล่อยกู้ด้วยดอกเบี้ย 0-0.1% แต่ถ้านำเงินไปฝากธนาคาร B ที่ให้ดอกเบี้ย 5.25-5.5% ถ้าเห็นแบบนี้ คุณจะกู้เงินจากธนาคาร A ไปฝากที่ธนาคาร B ไหมครับ? และนี่คือการ Carry Trade หรือพูดง่าย ๆ คือกู้เงินจากที่ที่ดอกเบี้ยถูก ๆ ซึ่งปัจจุบันคือญี่ปุ่น ไปหาส่วนต่างกำไรที่อื่นนั่นเอง
แต่ประเด็นคือนักลงทุนบางคนคิดว่า ดอกเบี้ย 5.25-5.5% ของสหรัฐฯ มันยังน้อยไป เลยนำเงินที่กู้มาไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง “หุ้น” ทันใดนั้นเอง BoJ ก็ได้ขึ้นดอกเบี้ยไปเป็น 0.25% และส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าญี่ปุ่นจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีก ต้นทุนทางการเงินของคนที่ทำ Carry Trade สูงขึ้น จึงต่างพากันทำปิดสถานะ
เหตุการณ์ประจวบเหมาะกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาไม่ดีนัก นักลงทุนจึงพากันกังวลเศรษฐกิจจะถดถอย ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้น โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ
ค่าเงินเยนหล่นลงมาจากระดับ 161 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ จุดสูงสุด ช่วง ก.ค. 2024 เหลือเพียง 145 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 5 ส.ค. 2024
สหรัฐฯ ใกล้เลือกตั้งผู้นำ เข้าไปทุกที
วันที่ 5 พ.ย. 2024 จะถึงกำหนดการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ รวมทั้งจะมีการเลือกตั้งทั้ง ส.ส. และ ส.ว. แน่นอนว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ได้สิทธิกำหนดนโยบายด้านต่าง ๆ จากคราวก่อนที่คะแนนจากทั้งสองพรรคมีคะแนนที่สูสี ทำให้นักลงทุนต้องจับตาการเลือกตั้งครั้งนี้ให้ดี ทั้งนี้แนวทางของนโยบายมีความแตกต่างกัน
การมาของพรรค Republicans มีแนวโน้มที่จะทำให้ภาษีนิติบุคคลอยู่ในระดับต่ำ กับเข้มงวดเรื่องแรงงานอพยพ การมาของพรรค Democrats มีแนวโน้มที่จะเพิ่มภาษี ขณะที่ ทั้งสองพรรคแสดงออกถึงการเป็นปฏิปักษ์ต่อจีน และเราได้เห็นการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนจากสหรัฐฯ แล้ว
ซึ่งฉากทัศน์ทั้งหมด ส่งผลต่อ เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย ตลาดแรงงาน การเติบโต และกำไรบริษัท ที่ไม่แน่นอน
กองทุนไหนดี โดย FinVest
ด้วยสถานการณ์ที่กล่าวมาข้างต้น เราแนะนำกลยุทธ์แบบ Defensive เพื่อรอเข้าลงทุน ในจังหวะที่ตลาดปรับฐานต่อไป
กองทุนรวมหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน
KKP GINFRAEQ-H
- ลงทุนใน Lazard Global Listed Infrastructure Fund
- เน้นลงทุนในบริษัทที่ดำนเนินธุรกิจเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน
ลงทุนใน Global Infrastructure หลุมหลบภัยในยามที่ตลาดแสนผันผวน
กองทุนรวมตราสารหนี้
UGISFX-N
- กองทุนตราสารหนี้ตัวท็อปของยุค ลงทุนใน Pimco GIS Income Fund
- กองทุนคาดหวังการทำกำไรจากค่าเงิน
- กองทุนไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงิน
5 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับกองทุนตระกูล UGIS กับ โปรลับ หาไม่ได้จากที่ไหน โดย FinVest X UOBAM
กองทุนทองคำ
SCBGOLD
- ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำต่างประเทศ คือ SPDR Gold Trust เพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงทองคำมากที่สุด
- กองทุนคาดหวังการทำกำไรจากค่าเงิน
- กองทุนไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงิน
กองทุนรวมตลาดเงิน
KKP PLUS
- เน้นลงทุนในตราสารหลายประเภท ให้ผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก
- ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคง ได้อันดับความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป
- อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ ~2 เดือน
*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
อ้างอิง
https://indexes.nikkei.co.jp/en/nkave/index/profile?idx=nk225
https://www.ishares.com/uk/individual/en/products/253742/ishares-nikkei-225-ucits-etf
#FinVest #YourWingsYourWay