อั่งเปาซองแดง จะให้เติบโตได้สุดแรงต้องลงทุน
อั่งเปาและแต๊ะเอีย เป็นของที่เรียกว่าขาดไม่ได้ในเทศกาลงานดีอย่างวันตรุษจีนหรือวันปีใหม่ของคนจีนนั่นเอง โดยที่อั่งเปานั้นหมายถึงซองสีแดง มีหน้าที่ห่อหุ้มของข้างในที่เราเรียกกันว่า “แต๊ะเอีย” หรือเงินที่ผู้ใหญ่ให้อวยพรเด็กๆ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมฉลองปีในวันดังกล่าว
แต่เมื่อเด็ก ๆ ได้เงินแต๊ะเอียมาแล้วนั้น
พวกเขาต่างมีตัวเลือกมากมายที่จะใช้เงินเหล่านี้
แล้วแบบนี้ถ้าอยากให้เงินแต๊ะเอียที่ได้รับมาเกิดประโยชน์ขั้นสุดหล่ะ
ควรจะทำอย่างไร ?
แน่นอนว่าการทำให้เงินงอกเงยได้อย่างมั่งคั่งและยั่งยืนนั้น คงหนีไม่พ้นการลงทุนระยะยาวในสินทรัพย์ที่ดี มีคุณภาพ และมีความสามารถที่จะเติบโตได้ ตัวเลขสมมุติง่าย ๆ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น หากได้รับอั่งเปาในวันตรุษจีนครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ถ้าเรานำเงินที่ได้ไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเ ปีละ 8% เฉลี่ยทบต้น ภายใน 10 ปี เงินที่เราเคยมี 1,000 บาท จะกลายเป็น 2,158 บาท
ดังนั้น เนื่องในโอกาสดีวันปีใหม่จีนครั้งนี้ ทาง FinVest เองก็มีกองทุนมาแนะนำในธีม “ มั่ง คั่ง ยั่ง ยืน ”ที่นอกจากจะช่วยให้เงินงอกเงยแล้ว ยังเสริมสิริมงคลอีกด้วย ให้ลงทุนได้ลงทุนแบบย๊าวยาวได้อย่างสบายใจ ต้อนรับวันตรุษจีนในปีนี้กัน ซึ่งกองทุนที่คัดสรรมาในคราวนี้นั้น เรียกได้ว่าราคาหัวหมูที่ขึ้นแรง ยังโดนแซงด้วยกองทุนเหล่านี้ จะน่าสนใจขนาดไหนนั้นติดตามต่อได้ด้านล่างเลย
มั่งคั่งอย่างยั่งยืน
จากกองทุนแนะนำจาก FinVest
กองทุนที่ทางเราคัดมาในคราวนี้ เรียกได้ว่าเหมาะกับการลงทุนในระยะยาวเพื่อให้เงินงอกเงย โดยธีมมงคล “ มั่ง คั่ง ยั่ง ยืน ” นั้นประกอบไปด้วย 4 ธีมย่อย ๆ ดังนี้
- > “มั่ง” มีไปด้วยธีม Megatrends เปิดประตูแห่งโลกอนาคต
- > คับ “คั่ง” ไปด้วยธีมการเงิน
- > รักษาพอร์ตให้ “ยั่ง” อยู่ยงผ่านการกระจายการลงทุนไปหลากหลายสินทรัพย์ ลดความเสี่ยง กระจุกตัว
- > “ยืน” หยัดที่จะปกป้องโลกอย่างยั่งยืนไปด้วยธีมพลังงานสะอาด
ถ้าอยากรู้ว่า แต่ละธีมนั้นมีกองไหนอย่างไรบ้าง ก็ถึงเวลาสมควรแล้วที่นักลงทุนจะได้พบกับกองทุนแนะนำจากทาง FinVest
“มั่ง” มี
ไปด้วยธีม Megatrends เปิดประตูแห่งโลกอนาคต
Megatrends หรือแนวโน้มขนาดใหญ่ ที่ถูกคาดว่าจะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคต โดย ทาง Schroders มองว่าธีม เช่น ภาวะโลกร้อน ,การเปลี่ยนผ่านพลังงาน , นวัตกรรม Healthcare และ ระบบจัดการอัตโนมัติต่าง ๆ นั้นน่าสนใจ
ทางด้าน Baillie Gifford บริษัทจัดการกองทุนอายุมากกว่ากว่าศตรวรรษ ก็ให้ความเห็นว่า Biotechnology, Cashless World Sustainable Food และ Future of transport เป็น 4 อุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว
ในส่วนของทาง Blackrock บริษัทจัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็มองว่า Technology Breakthrough หรือการปฏิวัติเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่กำลังจะมาแน่ ๆ เพื่อการแก้ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ในปัจจุบัน
เช่น การรักษาโรคมะเร็งโดยไม่ต้องฉายแสง หรือการค้นหาความต้องการใหม่ ๆ ที่ซ่อนอยู่ เช่น การใช้หุ่นยนต์ เพื่อช่วยลดเวลาในการผลิตของบริษัทต่าง ๆ นั้นจะมีบทบาทสำคัญในอนาคต
กองทุนแนะนำจาก FinVest ธีม “ มั่ง”มีไปด้วย Megatrend
KFGG-A
ลงทุนผ่าน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund
รวมหุ้นเติบโตสูงไว้ในกองทุนเดียว สอดคล้องกับชื่อกลยุทธ์ “Long Term Global Growth” เพื่อนำไปสู่การค้นพบผู้ชนะของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง ผลงานโดดเด่น ได้รับรางวัล 5 ดาวจาก Morningstar อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.finvest.co.th/ssfrmf2021finvest/
ถ้าอยากลงทุนผ่านกองแม่โดยตรง Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.finvest.co.th/ปรัชญาการลงทุน-ระยะยาว/
LHGEQ
ลงทุนผ่าน T. Rowe Price Global Focused Growth Equity
มองหาหุ้นผู้ชนะที่มีความสามารถในการทำกำไรระยะยาว ลงทุนเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่า การันตีรางวัล 5 ดาวจาก Morningstar ถ้าอยากลงทุนผ่านกองแม่โดยตรงสามารถทำได้ผ่านแอป FinVest
Schroder Global disruption
เน้นลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในการปรับตัวต้อนรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการพัฒนาของเทคโนโลยี กระจายการลงทุนให้ครอบคลุมทุกการเปลี่ยนแปลง อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finvest.co.th/schroder-global-disruption-ไม่พลาดการเติบโต-จาก/
คับ “คั่ง”
ไปด้วยธีมการเงิน
มุมมองที่น่าสนใจจากทาง Schroders ได้ให้ไว้เกี่ยวกับ กลุ่มการเงินทั่วโลก คือ กลุ่มดังกล่าวมีการปรับตัวของราคาสัมพันธ์โดยตรงกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งด้วยสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่เงินกำลังเฟ้อสูงจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาพลังงาน และปัญหาชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน ทาง Schroders จึง คาดว่า กลุ่มการเงินทั่วโลกจะได้ประโยชน์ทางตรงจากปัญหาเงินเฟ้อที่กำลังเกิดขึ้นในครั้งนี้
นอกจากปัจจัยเชิงบวกในระยะสั้นแล้ว ในระยะยาว กลุ่มการเงินเดิมขนาดใหญ่ทั่วโลก ยังได้หันมาสนใจลงทุนพัฒนาทางด้าน FinTech เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มการเงินขึ้นไปอีกระดับ
KT-Finance
ลงทุนผ่าน Fidelity Global Financial Service Fund
ลงทุนในกลุ่ม Financial Services ทั่วโลก (Fidelity Global Financial Service Fund)
ONE-GLOBFIN-RA
ลงทุนผ่าน BGF World Financials Fund
ลงทุนครอบคลุมสุดยอดหุ้นการเงิน ไว้ในกองทุนเดียว กองทุนหลักเน้นลงทุนในกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Financial Services
รักษาพอร์ตให้ “ยั่ง” อยู่ยง
ผ่านการกระจายการลงทุนไปหลากหลายสินทรัพย์ ลดความเสี่ยง กระจุกตัว
ในโลกการลงทุนตอนนี้ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย การกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ หรือ Asset Allocation เป็นทางออกที่จะช่วยให้พอร์ตยั่งอยู่ยง ผ่านช่วงเวลาที่ผันผวนนี้ไปด้วยกัน
FinVest แนะนำ พอร์ต “ยั่ง” อยู่ยง เอาชนะความผันผวน กับกองทุน KKP-SG-AA Series
กระจายการลงทุนอย่างครอบคลุม ในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้กลยุทธ์ Asset Allocation ในจัดสัดส่วนการลงทุนในแต่ละประเภทสินทรัพย์ทั้งในระยะยาว (SAA) และระยะสั้น (TAA) ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด มีผู้เชี่ยวชาญ ติดตามและดูแลปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับทุกสภาวะการลงทุน
โดยกองทุน KKP SG-AA Series นี้มีหลายรุ่น
ทั้งรุ่นใหญ่หรือ Extra ที่ถือหุ้นในสัดส่วนที่เข้มข้น
ไปจนถึงรุ่นเล็กอย่าง Ultra-Light ที่มีสัดส่วนลงทุนแบบเข้มข้นน้อยหน่อย
แต่ถือตราสารหนี้ที่เสี่ยงต่ำกว่าเยอะขึ้นมาแทน
ทำให้นักลงทุนหลับสบายได้ แม้วันตลาดผันผวน
หากสนใจ Series นี้ อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ https://www.finvest.co.th/kkp_sg-aa_series22/
“ยืน” หยัด
ที่จะปกป้องโลกอย่างยั่งยืนไปด้วยธีมพลังงานสะอาด
ทาง Blackrock มองว่า โลกกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค net zero emission เห็นได้จากการตื่นตัวของหลายๆประเทศ เช่น ภายในปี 2050 กว่า 137 ประเทศทั่วโลก มีเป้าหมายเป็นประเทศที่เป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่ง Blackrock มองว่าการเปลี่ยนผ่านนี้จำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนผ่านแบบค่อยเป็นไปค่อยไปซึ่งจะทำให้บริษัทที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนมีเวลาปรับโครงสร้างทางธุรกิจให้เป็นพลังงานสะอาด และหันไปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ ในปัจจุบัน หลาย ๆ ประเทศได้เริ่มต้นตั้งงบประมาณสำหรับการเข้าสู่ Net Zero แล้ว อย่างเช่น EU ที่ตั้งงบประมาณถึง 25% สำหรับการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
สอดคล้องกับทาง Schroders ที่มองว่า การที่นักลงทุนช่วยกันซื้อ Carbon Credit ส่งผลให้ราคาของเครดิตนี้มีราคาสูงขึ้น เป็นการบีบบังคับให้บริษัทต่าง ๆ ปรับตัวเพื่อลดต้นทุนการผลิต หรือหันมาใช้พลังงานสะอาด เพื่อสร้างทำกำไรจากการขายเครดิตมากยิ่งขึ้น ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าว นอกจากช่วยปกป้องพอร์ตการลงทุนแล้ว ยังเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนในอีกทางหนึ่งด้วย
FinVest แนะนำ กองทุนที่ยืนหยัดจะปกป้องโลกอย่างยั่งยืนไปด้วยธีมพลังงานสะอาด
KT-Climate
ลงทุนผ่าน Schroders Global Climate Change Equity
เน้นสร้างผลตอบแทนจากบริษัทที่แนวโน้มยังแข็งแกร่งเมื่อต้องเผชิญกับสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงบริษัทที่มีส่วนช่วยในการแก้ปัญหาโลกร้อน ถ้าอยากลงทุนผ่านกองแม่โดยตรงก็มาสามารถลงทุนผ่าน FinVest ได้เลย
MRENEW
ลงทุนผ่าน BGF Sustainable Energy Fund ซึ่งบริหารจัดการโดย BlackRock
จุดเด่นคือคัดสรรหุ้นในหลากหลายธุรกิจ ด้วยหลักการ ESG
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finvest.co.th/netzero/
Schroder Global Energy Transition
ลงทุนครอบคลุม ครบทั้ง Value Chain ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ บริหารโดยทีมงานมืออาชีพ ไม่พลาดกับธีม Net Zero อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.finvest.co.th/3127-2/
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับกองทุนเด็ดแนะนำสำหรับวันตรุษจีนปีเสือทอง ถึงแม้ว่าช่วงนี้ตลาดจะผันผวน จนแทบจะไม่เป็นใจ แต่ถึงอย่างไรการลงทุนในระยะยาวก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญ ที่จะช่วยสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน และจะเปลี่ยนอั่งเปาซองเล็ก ๆ ให้กลายเป็นก้อนใหญ่ได้ ก่อนจากกันคราวนี้ก็คงต้องขออวยพรนักลงทุนทุก ๆ ท่าน เนื่องในวันตรุษจีนปีใหม่นี้ ขอให้สมหวังทุกประการ ร่ำรวยมั่งคั่ง และถึงแม้สีมงคลของเทศกาลตรุษจีนจะเป็นสีแดง แต่ยังไงก็ขอให้พอร์ตนักลงทุนทุกท่านเป็นสีเขียวยาว ๆ มั่งคั่งตลอดปีตลอดไป ทั้งปีนี้และปีถัด ๆ ไป
กองทุนทั้งหมดนี้ สามารถลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น FinVest ได้เลยที่ https://finvest.onelink.me/CoWV/cd81c26c
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Line https://lin.ee/3wINMDBsz
Follow us on Website: www.finvest.co.th
#FinVest #YourWingsYourWays
ข้อมูลอ้างอิง